Pages

Tuesday 31 December 2013

Woof Curry

ส่งท้ายปีด้วยเอนทรี่สุดท้าย(ของพี)สำหรับปีนี้ ด้วยร้านข้าวแกงกะหรี่ในเมืองที่คนไทยนิยมไปไหว้พระมากที่สุดในญี่ปุ่น ใช่ค่ะ พระใหญ่ที่เมืองคามาคุระ ขอบอกว่าร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากไดบุตสึ (พระใหญ่) และวัดฮาเซะเดระที่มีเจ้าแม่กวนอิม จุดเช็คพอยท์ของเมือง เรียกได้ว่า ถ้าไหว้พระเสร็จ หิวๆละก็ ร้านเป็นออพชั่นที่ดีมากเลยค่ะ

ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านหรือในร้านมาเลย เพราะว่ามีลูกค้าในร้านอยู่ เลยไม่อยากรบกวนเวลากินข้าวของทุกท่าน ร้านนี้ขายแต่ข้าวแกงกะหรี่อย่างเดียวค่ะ แต่จะเลือกเนื้อสัตว์หรือเป็นผักก็ได้ แล้วแต่ท่าน แล้วก็เลือกแบบเข้าเซทกะเครื่องดื่มขนมหวานได้ พีสั่งแค่จานเดี่ยว เป็นข้าวแกงกะหรี่ไก่

เค้าจะเสิร์ฟมาพร้อมกระเทียมดอง (ขอบอกว่าดีงามมาก เข้ากับแกงกะหรี่สุดๆ อร่อยมากๆๆๆๆๆ) และผักดอง แกงกะหรี่ร้านนี้จะออกอินเดียมากกว่าแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่เราพบได้ทั่วไป (แบบร้านโคโคฯ) รสชาติเข้มข้น แต่ไม่ฉุนเครื่องเทศแบบอินเดียแท้ๆ เอาเป็นว่าเค้ามาแบบลูกครึ่งจริงๆ รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดเกินไปแต่พอมีรสบ้าง คนไทยน่าจะถูกปาก ไก่ชิ้่นโตไม่หวงกันเลยทีเดียว สนนราคา 850เยน ถือว่าไม่แพงเลยทีเดียว



ร้านนี้มีสองชั้น ชั้นล่างจะเป็นopen kitchen เห็นพ่อครัว(หรือเจ้าของร้านนั่นเอง) ปรุงแกงกะหรี่ทุกจานเสิร์ฟเอง ชั้นสองจะโล่งๆกว่า เห็นวิวริมถนน (แต่บันไดชันมาก โปรดระวังค่ะ) ส่วนตัวชอบใจแกงกะหรี่ร้านนี้มากจริงๆ เป็นรสชาติที่หากินในไทยไม่ค่อยได้ สำหรับแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ถ้าใครเป็นแฟนแกงกะหรี่แล้วได้ไปไหว้พระใหญ่ ลองแวะร้านนี้ไม่เสียใจแน่นอนค่ะ ร้านอยู่ใกล้สถานีHase ของEnoden เลย ถ้าไปหน้าร้อน เดินทะลุซอยข้างๆร้านไปชิลด์แถวชายหาดYuigahama ก็เลิศค่ะ

((ก่อนจากไปก็ขอให้ปีหน้าทุกท่านมีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการนะคะ เราสามคนสัญญาว่าจะหาของกินมาแชร์กับทุกท่านต่อไปเรื่อยๆ -- เพราะตอนนี้ตารางเที่ยวของเราสามคนออกแล้ว ขอบอกว่าปีหน้าไม่มีคำว่าผิดหวังค่ะ! ฮ่า))

Woof Curry
Hase, Kamakura, Japan
Website: http://www.woof-curry.com/
Tabelog: http://tabelog.com/kanagawa/A1404/A140402/14012040/

View Larger Map

Thursday 12 December 2013

Pho Vietnam Tuan & Lan

สวัสดีค่ะ เอนทรี่นี้จะพาไปชิมเฝอร้อนๆรสชาติดีๆที่กรุงปรากกันนะคะ ใครที่เคยหาข้อมูลร้านอาหารในเช็กคงได้ยินกิตติศัพท์ของอาหารประเทศนี้ดีว่ามันเป็นอะไรที่ชวนให้อ้วนมาก เพราะเป็น high fat & high carb ตัวจริงเสียงจริง หลายวันที่พิมมิยะแอนด์เดอะแก๊งอยู่ในเช็กถ้าให้เสพอาหารเนื้อๆเน้นๆแบบนั้นทุกมื้อมีหวังเลี่ยนตาย พวกเราเลยขอพักจากมื้อหนักๆมาเป็นอาหารเอเชี่ยนเบาๆกันซักมื้อ 

บังเอิญพิมมิยะเสิร์ชไปเจอร้าน Pho Vietnam Tuan & Lan ที่คนท้องถิ่นรีวิวไว้ ดูๆแล้วน่าจะอร่อยใช้ได้ เลยจัดไปเป็นมื้อค่ำวันนึง รูปหน้าร้านเลยมืดๆมัวๆด้วยประการฉะนี้ :D



เมนูพร้อมรูปประกอบอยู่ที่ข้างฝา ที่จริงมีเยอะกว่านี้ แต่ลืมถ่ายมาค่ะ อารมณ์คนมันหิว



เฝอเนื้อ (99 CZK) ของพี่จุ๊บ หน้าตาดูดีมาก :D



ของพิมมิยะเป็นเฝอไก่ (99 CZK) ที่ดันลืมถ่ายรูปตอนก่อนทานเอาไว้ ในรูปนี่หมดไปเกือบครึ่งชามแล้วค่ะ ฮ่า~ เป็นเฝอสไตล์เวียดนามที่ใช้เส้นหน้าตาคล้ายเส้นเล็กบ้านเรา แต่นุ่มกว่านั้นมาก จำได้ว่าเคยทานเฝอที่เวียดนามก็เป็นเส้นแบบนี้ (คุณผู้อ่านอย่านึกถึงเส้นก๋วยจั๊บญวนเชียวนะคะ มันต่างกันโดยสิ้นเชิง) ใส่อกไก่ต้มแล่เป็นชิ้นบางๆกับถั่วงอก โรยด้วยต้นหอมและหอมใหญ่ซอย ขอบอกว่าน้ำซุปอร่อยมาก บีบมะนาวใส่ไปซีกนึง รสชาติกลมกล่อมยิ่งนัก อากาศหนาวๆอย่างนี้ ได้ทานซุปร้อนๆคล่องคอนี่มี่ความสุขที่ซู้ด~



ส่วนแท่งๆที่เห็นด้านซ้ายมือของภาพ เป็นปอเปี๊ยะทอดค่ะ รู้สึกจะ 30 CZK แต่ไม่อร่อย แป้งเหนียวเกินไป ไม่กรอบ ส่วนไส้ก็งั้นๆ อันนี้ไม่แนะนำค่ะ

คุณถุงสั่งข้าว คล้ายๆเนื้อบดปั้นเป็นก้อนราดซอสเปรี้ยวหวาน จำราคาที่แน่นอนไม่ได้แล้ว ประมาณ 100 กว่าเหรียญ จานนี้เค้าว่ากันว่าเฉยๆค่ะ พิมมิยะไม่ได้ชิมอีกตามเคย เพราะเป็นเนื้อวัว



บรรยากาศในร้าน ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตายืนโซ้ยกัน ร้านนี้ไม่มีที่ให้นั่งค่ะ แล้วก็ต้องบริการตนเองทุกขั้นตอนไปจนถึงเอาอาหารและภาชนะไปทิ้ง (แอบนึกถึงร้านราเมงยืนกินที่ญี่ปุ่น อารมณ์คล้ายกันเลย หุหุ) ใครที่อยากสัมผัสรสชาติและบรรยากาศแบบนี้ เชิญตามพวกเราไปชิมได้เลยค่ะ รับรองว่าอร่อยจริง :D



View Prague in a larger map

Pho Vietnam Tuan & Lan
Slavikova 1657/1 120 000 Prague
Open daily 10:00-22:00
http://photuanlan.com/

ปล.ถ้าไม่อยากยืนรับประทาน ทางร้านเค้ามีอีกสาขานึงที่มีโต๊ะให้นั่ง ลองดูในเว็บไซต์ของร้านนะคะ 

Special thanks: พี่จุ๊บ สำหรับความอนุเคราะห์รูปเฝอเนื้อและบรรยากาศในร้าน ขอบคุณมากๆค่า รักนะจุ๊บๆ :D

ピム宮 ~ pimmiya

Tuesday 3 December 2013

Confiserie Sprungli -- Luxemburgerli ®

สวัสดีค่ะ

หลังจากทานอาหารคาวใน Switzerland มาหลายร้านแล้ว นาโอะขอรีวิวของหวานบ้างดีกว่า (และหลังจากนี้ไปก็จะมีแต่ของหวาน แหะๆ)

วันนี้นาโอะจะมาแนะนำร้านช็อกโกแลตชื่อดังแห่งเมืองซูริคค่ะ ร้านนี้ดังมาก คิดว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักกันดี ชื่อร้าน Sprungli ซึ่งเป็นร้านช็อกโกแลตประจำซูริคก็ว่าได้ ร้านนี้มีช็อกโกแลตมากมายให้เลือกสรรค่ะ พวก Truffles ก็มีล้นหลามมาก เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว แต่วันนี้นาโอะไม่ได้จะมารีวิว Truffles ค่ะ แต่จะมารีวิวขนมหวานที่คล้ายๆ Macaron แต่ว่าเค้ามีชื่อเรียกพิเศษว่า Luxemburgerli (ชื่อยาวมาก ไม่เคยออกเสียงถูกเลยซักครั้ง)

หน้าร้านสาขาใหญ่ในซูริค

ดิสเพลย์ Luxemburgerli หน้าร้าน

นาโอะตั้งใจอย่างยิ่งว่าจะต้องไปลองชิมให้จงได้ เพราะขนมอะไร รูปร่างหน้าตามันช่างน่ารักน่าชัง อยากจะลองมันทุกสีทุกรส ต้องออกตัวก่อนว่า ส่วนตัวนาโอะไม่ค่อยชอบทาน Macaron เท่าไหร่นะคะ อาจจะไม่สามารถบรรยายความอร่อยเปรียบเทียบกับยี่ห้อนู้นนี้นั้นได้เยอะนัก 

Luxemburgerli ของร้าน Sprungli มีหลายรสชาติมากค่ะ มีทั้งแบบผสมแอลกอฮอล์และแบบไม่ผสมแอลกอฮอล์ สาขาที่นาโอะเข้าไปซื้อ Luxemburgerli เป็นสาขาเล็กๆ ที่สถานีรถไฟ Zurich HB ค่ะ จำได้ว่าหิวมาก ตาลาย หน้ามืด แต่มีคิวต้องไปกินข้าวกลางวันที่ไหนซักแห่ง (เพื่อเอามารีวิวนี่แหละค่ะ) เลยต้องหิ้วท้องรอมื้อกลางวันไว้ก่อน นาโอะเลยบอกคุณผู้ชายว่า เราถือโอกาสจัด Luxemburgerli นี่กินกันดีกว่า ไม่พูดพร่ำทำเพลง นาโอะเดินดุ่มๆ เข้าไปในร้าน สั่งพนักงานขายว่า เอากล่องเล็ก ทุกรสชาติ ช่วยใส่มาให้หน่อย

หลายสีจริงๆ

หน้าตู้


พอได้ Luxemburgerli มาเต็มกล่อง (ประมาณ 18 ชิ้น) นาโอะก็จัดแจงถ่ายรูปพอเป็นพิเศษ แล้วก็รีบชิมทันใด ชิ้นเล็กน่ารัก สามารถเอาเข้าปากได้ทั้งชิ้น กินเข้าไปชิ้นแรก อืม...มันก็คล้าย Macaron นะ แต่ตอนที่ลองกิน Luxemburgerli นาโอะยังไม่เคยชิม Laduree เลยนะคะ รู้สึกแค่ว่า มันไม่ค่อยหวานดี แต่พอตอนหลังมาซื้อ Laduree ทานที่ปารีส ก็พบว่า Luxemburgerli ของ Sprungli อร่อยกว่างะ (แฟน Laduree อย่าว่าเค้านะ เอิ้ก) Luxemburgerli หวานน้อยกว่า หอมกว่า เลี่ยนน้อยกว่า กินได้หมดกล่องง่ายๆ เลย เหอๆ นาโอะว่า นาโอะกิน Luxemburgerli แล้วรู้สึกชอบมากกว่า Macaron ทั่วไปที่เคยกินมา

กล่อง

เรียงมาอย่างสวยงาม

รสไรก็จำไม่ได้ค่ะ แหะๆ

สาขาของ Sprungli มีเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะในซูริค มีสาขาตามเมืองต่างๆ ใน Switzerland อีกด้วย แนะนำคุณผู้อ่านลองเสริชดูจากในเวบของทางร้านนะคะ แต่ถ้าใครอยากไปสาขาต้นตำรับ ตามแผนที่ด้านล่างไปได้เลยค่ะ


View Larger Map

แล้วพบกันใหม่ค่ะ
nao

Sunday 1 December 2013

Lobkowicz Palace Cafe

สวัสดีค่ะ เอนทรี่นี้พิมมิยะจะพาไปทานอาหารในเขตปราสาทปรากกันนะคะ 

เมื่อมีโอกาสได้มาปราก ทุกคนคงไม่พลาดที่จะเข้าชม Prague Castle Complex ที่ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ข้างในนั้นมีสถานที่ที่น่าสนใจอยู่เยอะแยะ ใช้เวลากันค่อนวันก็ยังดูไม่หมด 

วันนั้นพิมมิยะแอนด์เดอะแก๊งเลยเลือกรับประทานมื้อเที่ยงกันที่ Lobkowicz Palace Cafe ซึ่งหาไม่ยากค่ะ เพียงแค่หาที่ตั้งของ Lobkowicz Palace ให้เจอ ยังไง้ยังไงก็ถึงร้านแน่ๆ :D (เดินเลยหอคอย Daliborka มาหน่อยนึงก็เจอแล้วแหละค่ะ) ตัวคาเฟ่อยู่ด้านล่างของปราสาท ไม่จำเป็นต้องมีบัตรเข้าชมปราสาทก็เข้ามาทานกันได้นะคะ 



ในวันที่อากาศดี นั่งจิบกาแฟชิลๆตรงระเบียง ชมวิวสวยๆของปรากก็เก๋ไม่หยอกค่ะ แต่พวกเราเลือกที่นั่งด้านในเพราะคนสูบบุหรี่กันเยอะมว้าก.. เบื่อร้านอาหารที่นี่ตรงนี้แหละค่ะ สูบในร้านกันอย่างไม่เกรงใจคนไม่สูบอย่างพวกเราบ้างเล้ย :(



เมนูอาหาร
>> http://lobkowicz.cz/data/1370435929419Lobkowicz_Cafe_Menu_2013.pdf 

เมนูเครื่องดื่ม
>> http://lobkowicz.cz/data/1370435939600Lobkowicz_Cafe_Menu_2013_Beverages.pdf 

จานที่พิมมิยะเลือกเป็น Parma ham and cheese panini (210 CZK) แซนด์วิชไส้ชีส Gruyere กับพาร์มาแฮม เสิร์ฟมากับ coleslaw และแป้ง tortilla ทอด



แหวกไส้ออกมาให้ดู เห็นชีสกรูแยร์หนืดๆยืดๆ เจ้าชีสนี่แหละค่ะที่เป็นต้นเหตุให้พิมมิยะสั่งจานนี้มา เพราะปกติเป็นคนชอบทานชีสมาก (กลับกันกับนาโอะ) ยิ่งตาลุกวาวเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นว่าเป็นชีสกรูแยร์ (แหมๆ ก็เค้าอยากจะชิมชีสชื่อดังบ้างนิ) ตัวชีสอร่อยดี  พาร์มาแฮมก็อร่อย แต่กัดไม่ค่อยจะยอมขาด -*- ขนมปังด้านนอกก็อบมาอุ่นๆ กรอบๆ สรุปว่าสมใจชีสเลิฟเวอร์อย่างพิมมิยะค่ะ



ส่วนโคลสลอว์กับแป้งตอร์ติญ่าทอดนี่แทบจะไม่ได้แตะ เพราะไม่ชอบทานกะหล่ำปลีดิบอยู่เป็นทุนเดิม โคลสลอว์ร้านนี้เป็นสไตล์อเมริกันคือใส่มายองเนส (อย่างที่พีได้พูดถึงในรีวิวก่อนหน้า) ส่วนแป้งทอดๆนี่ก็ไม่ใช่แนวพิมมิยะเหมือนกัน เลยเสร็จพี่จุ๊บกะหญิงอ้น 2 นางช่วยกันทานแป้งทอดจนเกลี้ยงเลย อิอิ..

ถัดมาเป็น Turkey wrap (210 CZK) ของหญิงอ้น เป็นแป้งตอร์ติญ่าห่อเนื้อไก่งวงอบ ผักกาด แครนเบอร์รี่ เสริมรสชาติด้วยมายองเนส เป็นเมนูเพื่อสุขภาพมากที่สุดของมื้อนั้นเลยมั้งเนี่ย เพราะปกติไก่งวงนี่ขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่โปรตีนสูงแต่ไขมันต่ำอยู่แล้ว ช่างต่างจากเมนูที่พิมมิยะสั่งซะนี่กระไร -"-



ส่วนคุณถุงสั่ง Lobkowicz-style "CZECH" goulash (220 CZK) ที่จริงกูลาชนี่เป็นสตูว์สไตล์ฮังกาเรียน แต่เมนูนี้จะต่างจากต้นตำรับยังไง อันนี้พิมมิยะก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เพราะชามนี้ทำจากเนื้อ เลยไม่ได้ลองชิม ส่วนคนสั่งเค้าบอกว่าอร่อยดี 



จานนี้เป็น Soup and 1/2 sandwich (190 CZK) ของพี่จุ๊บ เป็นซุปประจำวันซึ่งก็คือซุปมะเขือเทศค่ะ รสชาติออกเปรี้ยวๆหน่อย มาพร้อมกับแซนด์วิชครึ่งชิ้น แต่เจ้าตัวจำไม่ได้ว่าสั่งแซนด์วิชอะไรไป (นี่ขนาดผ่านมาไม่ถึงเดือนเลยนะคะเนี่ย ลืมซะแล้วพี่เรา หุหุ..)



ตามด้วย Soup and 1/2 sandwich ของน้องจิ๊บ แซนด์วิชเป็นบาแกตต์ไส้ roast beef น้องบอกว่าอร่อยดีค่ะ



ตามธรรมเนียม เสร็จของคาวก็ต้องหาอะไรมาล้างปาก (อันนี้ธรรมเนียมของพิมมิยะเอง ฮ่า~) แก้วนี้เป็น Algerian coffee (110 CZK) สำหรับคุณถุง เจ้า Algerian coffee นี่ดูเหมือนจะเป็นเมนูที่คิดขึ้นมาโดยบาริสต้าชาวเช็ก มิได้มีต้นกำเนิดมาจากอัลจีเรียแต่อย่างใด เป็นกาแฟที่ผสมกับ egg liqueur (ที่เห็นเป็นชั้นสีเหลืองนวลๆอยู่ก้นแก้ว เท่าที่เสิร์ชหาสูตรดู เป็นบรั่นดีตีเข้ากับไข่ หรือบางสูตรก็ใช้ eggnog ผสมบรั่นดี) โปะด้วยวิปครีมด้านบน คุณถุงบอกว่าอร่อยดีค่ะ



ส่วนสาวๆ ก็สั่ง Traditional Bohemian apple strudel (125 CZK) มาเป็นของหวาน แอปเปิ้ลสตรูเดิ้ลของร้านนี้เสิร์ฟมากับวิปครีม และวานิลลาซอส อร่อยทั้งตัวสตรูเดิ้ลและเครื่องเคียงค่ะ พิมมิยะชอบสตรูเดิ้ลของร้านนี้ แอปเปิ้ลเค้าชิ้นใหญ่ดี แป้งก็บางเฉียบ เสริมด้วยรสชาติของซอสและครีม เข้ากันดีจริงๆค่ะ เป็นหนึ่งในสตรูเดิ้ลที่อร่อยที่สุดที่เคยทานมาเลย >_<



ใครที่ไปเยือนปราสาทปราก อย่าลืมลองไปชิมร้านนี้ดูนะคะ อาหารง่ายๆ แต่อร่อยดีค่ะ :D

Lobkowicz Palace Cafe 
เปิดทุกวัน 10:00 - 18:00 
website http://www.lobkowicz.cz/en/Lobkowicz-Palace-Cafe-15.htm

ピム宮 ~ pimmiya

Thursday 28 November 2013

Takrai Thai Food Take Away

สวัสดีค่ะ

วันนี้นาโอะขอมาแหวกแนวนิดนึง ปกติเวลาไปต่างประเทศเราก็อาจจะคิดถึงอาหารไทยกันบ้างใช่มั้ยคะ แต่เราก็คงไม่ค่อยจะแวะทานอาหารไทยกันเท่าไหร่เพราะคิดว่ายังไงอาหารไทยกินที่ไทยมันก็ต้องอร่อยกว่าอยู่แล้ว บางครั้งบางทีเดินทางท่องเที่ยวหลายวันโดยเฉพาะโซนที่ต้องเจอแต่อาหารฝรั่ง เราอาจจะอยากเปลี่ยนรสชาติกลับมาเป็นอาหารถูกปากเราบ้าง วันนี้นาโอะขอนำเสนอร้านอาหารไทยที่ Lucern ให้คุณผู้อ่านได้ไปลองชิมกัน

ร้านนี้ชื่อว่าร้านตะไคร้ (Takrai) ค่ะ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Lucern มากนัก เดินข้ามสะพานข้ามทะเลสาปมานิดนึง ร้านนี้เป็นร้านอาหารแบบ Take Away ค่ะ ร้านอาหาร Take Away ของที่ Switzerland ไม่ได้จำเป็นว่าต้องซื้อกลับไปทานที่บ้านอย่างเดียวค่ะ จะนั่งทานที่ร้านก็ได้ แต่ต้องบริการตัวเองส่วนนึง ไม่มีบริกรมาค่อยอำนวยความสะดวกค่ะ นาโอะหาข้อมูลร้านตะไคร้ไปก่อนที่จะเดินทาง อ่านรีวิวจากหลายเวบ ทำให้รู้ว่า ร้านอาหารไทยที่ Switzerland นี่ค่อนข้างได้รับความนิยมค่ะ คนสวิสชอบทานอาหารไทยมากกว่าอาหารจีนซะอีก (ปกติเราจะหาร้านอาหารจีนได้ทุกที่ทุกประเทศเลย)

หน้าร้านที่ถ่ายมามุมไม่ค่อยดี เพราะแดดแรงมว๊าก

ร้านตะไคร้มีพื้นที่ไม่ค่อยเยอะค่ะ เข้าไปก็จะเจอแม่ครัวคนไทยยืนผัดอาหารบริการอยู่ มีเคาน์เตอร์ที่สามารถนั่งทานได้ ถัดเข้าไปด้านในก็จะมีโต๊ะให้นั่งทานประมาณ 4-5 โต๊ะค่ะ นี่ยังไม่รวมโต๊ะด้านนอกร้านนะคะ ลูกค้าในร้านก็แน่นเลยทีเดียว

เมนู



คุณผู้ชายอยากทานผัดกะเพราค่ะ แต่ก็เกรงว่าทางร้านจะไม่ได้ใช้ใบกะเพราแท้ๆ เนื่องจากประสบการณ์จากการกินผัดกะเพราในต่างแดน นาโอะกับคุณผู้ชายมักเจอร้านอาหารไทย เอาใบโหระพามาย้อมแมวว่าเป็นใบกะเพรา ฮ่าๆ เลยต้องถามให้แน่ใจก่อนว่าใช้ใบกะเพราจริงรึเปล่า แม่ครัวยืนยันว่าใบกะเพราสดๆ เลยจ้า คุณผู้ชายเลยสั่งผัดกะเพราหมู ส่วนนาโอะสั่งหมูผัดน้ำมันหอยค่ะ

ขวาบนคือกะเพราหมู ล่างคือหมูผัดน้ำมันหอย

สั่งกับข้าวจะมาพร้อมข้าว 1 จานค่ะ

ขอบอกว่า ไม่ผิดหวังค่ะ รสชาติคนไทยแท้ๆ อร่อยกว่าร้านอาหารตามสั่งในเมืองไทยบางร้านซะอีก ทริปนี้นาโอะทานอาหารร้านไทยสองร้านค่ะ ตอนทานร้านแรกก็ว่ารสชาติโอเคแล้ว กะจะมารีวิวให้คุณผู้อ่านได้แวะไปลอง แต่พอมาเจอร้านนี้ ลืมร้านแรกไปเลยค่ะ ร้านนี้อร่อยแบบไทยๆ กว่ากันเยอะ

ถ้าคุณผู้อ่านแวะไปเที่ยว Lucern แล้วเริ่มเอียนกับอาหารสวิสแล้ว ลองแวะทานร้านตะไคร้ดูนะคะ นาโอะว่าคนไทยน่าจะชอบค่ะ

Takrai Thai Food Take Away
เวลาเปิดบริการ
วันจันทร์ถึงศุกร์ 11.00 - 14.15 และ 17.00 - 22.30 ครัวปิด 22.00
วันเสาร์ 11.00 - 22.30 ครัวปิด 22.00
วันอาทิตย์หยุด
ที่อยู่: Haldenstrasse 9, 6006 Luzern



View Larger Map

แล้วพบกันใหม่ค่ะ
nao

Tuesday 19 November 2013

Restaurant Anker

สวัสดีค่ะ

Switzerland เนี่ย อาหารมีชื่อของเค้าและเค้ากินกันเป็นล่ำเป็นสันมากเลยก็คือชีสใช่มั้ยคะ สารภาพก่อนว่า นาโอะไม่ค่อยชอบทานชีสค่ะ เพราะฉะนั้น คุณผู้อ่านเลยอดเห็นนาโอะรีวิวพวกร้านอาหารสวิสที่เน้นชีสๆ อิอิ

แต่วันนี้นาโอะจะพาไปชิมร้านอาหารสไตล์ Swiss ค่ะ เป็นอาหารประจำชาติอีกเมนูนึง เรียกว่า Rosti เจ้า Rosti เนี่ย ถือกำเนิดขึ้นที่เมือง Bern ค่ะ ชาวเบิร์นเค้าทำกินกันเป็นอาหารเช้า ต่อมาเมนูนี้โด่งดังไปทั่วประเทศ เลยกลายเป็น 1 ในอาหารประจำชาติสวิสไป นาโอะได้มีโอกาสได้ไปเมือง Bern ก็ต้องไปลองชิม Rosti ต้นตำรับ จริงมั้ยคะ

ร้านนี้ชื่อร้าน Restaurant Anker อยู่ใกล้ๆ หอนาฬิกา (Zytglogge) เลยค่ะ หาง่ายมากๆ ร้านอยู่ติดริมถนนใหญ่เลย ร้านนี้มีเมนู Rosti เยอะมาก เยอะจริงๆ ค่ะ มีเป็น 100 เมนูเลย เลือกกันได้ตามชอบ

หน้าร้าน

อุปกรณ์การกิน (สังเกตว่าโค้กบ้านเค้าก็มีชื่อเหมือนกันเนอะ อิอิ)

แนะนำคุณผู้อ่านที่ไม่สันทัดภาษาเยอรมันว่าก่อนไปกินร้านนี้ลองเข้าไปดูในเวบไซต์เค้าก่อน ดาวน์โหลดเมนูมาเลือกก่อนค่ะ แปลด้วยเวบแปลภาษามาล่วงหน้าก่อนเพราะเมนูที่นี่ไม่มีภาษาอังกฤษ แถมพนักงานนางก็มึน ตอบอะไรเป็นภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ นาโอะเลยต้องอาศัยการเดา ประกอบการดูจากรูปภาพแล้วสั่งเอาค่ะ ตอนแรกนาโอะตั้งใจว่านาโอะจะสั่ง Rosti กับคุณผู้ชายคนละจาน แต่เนื่องจากวันนั้นนาโอะเพิ่งฟื้นคืนร่างจากอาการอาหารเป็นพิษ ทานอะไรก็มวนท้องไปหมด นาโอะเลยอยากทานอะไรที่มันย่อยง่ายหน่อยไม่อยากได้พวกชีสๆ อะค่ะ สรุปสุดท้าย นาโอะเลยสั่งสเต็กไก่พันด้วยเบค่อนพร้อมเฟรนช์ฟราย ส่วนคุณผู้ชายสั่ง Rosti แฮมและชีส

เบค่อนพันไก่ (หรือไก่พันเบค่อน??)

Rosti แฮมชีส


ขอบอกว่า Rosti อร่อยมากค่ะ คุณผู้อ่านบางท่านที่ไม่รู้จักอาจจะไม่ทราบว่ามันคืออะไร Rosti มันคือมันฝรั่งเอามาซอยๆๆๆๆ เป็นเส้นๆ แล้วเอาลงไปผัดกับเนย ชีสและเครื่องปรุงอื่นๆ แล้วนำเนื้อสัตว์หรืออื่นๆ มาวางตามชอบ เสิร์ฟมาเป็นแบบจานร้อน มันฝรั่งอร่อยมากค่ะ ขนาดนาโอะไม่ควรจะทานเยอะเพราะมันค่อนข้างมันและย่อยยาก แต่ก็อย่าได้แคร์ค่ะ ไม่รู้ชาตินี้จะได้ไปอีกรึเปล่า เพราะฉะนั้นต้องกินเข้าไปค่ะ แหะๆ ส่วนสเต็กไก่พันเบค่อนของนาโอะอร่อยดีค่ะ มีรสชาติฝังเข้าไปในเนื้อไก่ เนื้อนุ่ม (เป็นเนื้ออกไก่) แต่เบค่อนเค็มไปนิด สรุป Rosti ขนาดกินกันคนครึ่ง ยังกินไม่หมดเลยค่ะ เพราะมันเยอะมากกกก

นอกจาก Rosti แล้ว ร้าน Anker ยังมีอาหารประจำชาติสวิสอื่นๆ อีกหลายอย่าง ถ้าคุณผู้อ่านได้มีโอกาสได้ไป Bern อย่าลืมลองไปทานดูนะคะ

Restaurant Anker 
Kornhausplatz 16
CH-3011 Bern

เวลาให้บริการ
Mon-Fri: 08:00-23:30
Sat: 09:00-23:30 
Sun: 09:30-18:00


View Larger Map

แล้วพบกันใหม่ค่ะ
nao

Saturday 16 November 2013

Chocolats Rohr

สวัสดีค่ะ

ถ้าพูดถึงเมือง Geneva หลายๆ ท่านคงจะนึกถึงนาฬิกากับช็อกโกแลตใช่มั้ยล่ะคะ นาโอะก็เหมือนกันค่ะ เนื่องจากนาฬิกามันช่างแพงเกินเอื้อม ก็เอาแค่ช็อกโกแลตชื่อดังแทนละกัน ก่อนเดินทางไป Geneva นาโอะก็ทำการบ้านไปก่อนอย่างทุกครั้งค่ะ ครั้งนี้หาร้านขายช็อกโกแลตแบบรสชาติดี ราคาประหยัด (ส่วนใหญ่ร้านดังๆ ราคาแพงมาก สู้ไม่ไหวค่ะ)

จริงๆ นาโอะหาร้านช็อกโกแลตเอาไว้หลายร้านค่ะ แต่ได้มีโอกาสลองชิมแค่ร้านเดียว เพราะเป็นอันดับ 1 (ในลิสต์ของนาโอะ) และอยู่ไม่ไกลมากนัก ร้านนี้ชื่อว่า Chocolats Rohr ค่ะ เป็นร้านเล็กๆ แบบครอบครัว มีประสบการณ์ในการทำช็อกโกแลตมายาวนาน (อ่านในเวบมาค่ะ แหะๆ) มี 3 สาขา แต่สาขาที่นาโอะไปเป็นสาขาหลักซึ่งตั้งอยู่ในระแวก Old Town ของ Geneva ค่ะ

หน้าร้าน


Truffles หลายแบบให้เลือกสรร


ข้างในร้านค่อนข้างเล็กค่ะ มีช็อกโกแลตแบบ Bar และแบบต่างๆ ที่ซื้อไปเป็นของฝากหรือกลับไปทานที่บ้านได้นานๆ หน่อย แต่ส่วนที่นาโอะสนใจก็คือ Truffles ค่ะ มาถึง Geneva ทั้งทีก็ต้องกินช็อกโกแลต Truffles ซิคะ เค้าขายดีทีเดียวค่ะ เพราะตอนที่นาโอะเข้าไปในร้าน ลูกค้าเยอะเชียว นาโอะเลยมีเวลาเล็งว่าจะเอา Truffles แบบไหนบ้าง ราคาก็ไม่ถือว่าแพงมากค่ะ 100g 11 CHF ถ้าเทียบกับร้านช็อกโกแลตดังๆ ร้านอื่นก็เรียกได้ว่าถูกเลยค่ะ นาโอะชี้นิ้วเลือกนู้นนี่นั่น ได้มาประมาณ 12 ชิ้นก็เลยคิดว่าพอแล้ว เผื่อท้องและลิ้นไปลองชิมร้านอื่นบ้าง

ถุงใส่ Truffles

นาโอะต้องขอโทษคุณผู้อ่านด้วยค่ะที่ไม่ได้ถ่ายรูปว่าตัวเองซื้อไรมากินบ้างเอาไว้เลย มีแต่รูปถุง -*- พอดีออกมาแล้วฝนตก มัวแต่ตกใจหยิบร่ม ใจก็อยากจะรีบกิน เลยแกะถุง หยิบ ใส่ปาก ลืมถ่ายรูปไปสนิทใจ รสชาติอร่อยมากค่ะ นาโอะจะชอบกิน Truffles ที่เป็น Milk Chocolate ผสมถั่วต่างๆ เช่น ฮาเซลนัท รสชาติอร่อยกลมกล่อมไม่หวานมากค่ะ ขอบอกว่า 12 ชิ้น กินไม่นานก็หมดแล้ว มันอร่อยจริงๆ แหะๆ 

นาโอะรู้สึกว่า Truffles ของร้านนี้มันอร่อยกว่าพวก Truffles ยี่ห้อดังๆ ที่ขายตาม Supermarket เยอะอยู่นะคะ รสชาติมันเนียนๆ เข้มข้น ไม่หวาน รู้สึกว่ามันสดอะค่ะ (ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า)

ถ้าคุณผู้อ่านได้มีโอกาสไปเยือน Geneva อย่าลืมทานช็อกโกแลตนะคะ นาโอะถามเพื่อนที่อยู่ Geneva ว่า ร้านช็อกโกแลตร้านไหนอร่อยสุด เค้าตอบว่า เหมือนกันทุกร้านแหละ ก็อย่างว่าละเนอะ เมืองเค้ามีชื่อเสียงเรื่องนี้ที่สุด จะอร่อยน้อยหน้ากันได้ยังไง 

Chocolats Rohr สาขา Le Molard 
เปิด จ-ส 9:00-19:00 ยกเว้นวันเสาร์ปิด 18:00 
วันอาทิตย์ปิดค่ะ
Place du Molard 3 1204 Genève


View Larger Map

แล้วพบกันใหม่ค่ะ
nao

Tuesday 12 November 2013

Tameiken (たいめいけん)



หนีหนาวจากฝั่งยุโรปมาหนาวแถวเอเชียต่อดีกว่า วันนี้พีจะพาไปชิมข้าวห่อไข่ที่พีหมายตามาสองปีได้แล้ว ร้านนี้ชื่อ たいめいけん - Tameiken  ร้านนี้นอกจากจะมีสาขาใหญ่แล้วก็มีร้านเป็นเหมือนเคาท์เตอร์เล็กๆตามห้างใหญ่ๆ อย่างเซบุ อิเคบุคุโระ, ทาคาชิมายะ ชินจูกุ แต่วันนี้ที่จะพาไปชิมคือสาขาแม่ตั้งอยู่ที่แถวNihonbashi เหตุผลเพราะเมนูที่อยากชิมไม่มีขายที่ร้านเคาท์เตอร์ค่ะ



ร้านเปิด 11 โมง พีไปถึง11.10 น. เดินเข้าไป เดี๋ยวนะ คนพวกนี้เค้ามาจากไหนกันค่ะ เค้านั่งกันเต็มร้าน ได้อาหารแล้วด้วย บางคนเหมือนพนักงานบริษัท เค้าพักเที่ยงกันแล้วหรอ ไวมาก ก้มหน้าหันมาอีกที นั่งกันเต็มร้านเลย จุดนี้ต้องขอบอกว่าเป็นเคล็ดลับการไปกินข้าวที่ญี่ปุ่นเลย คือเลี่ยงพักเที่ยงได้จะดีมาก ต้องกินก่อนหรือหลังเท่านั้นจริงๆ แล้วถ้าเป็นร้านดัง ควรไปตั้งแต่เปิดร้านเท่านั้นจริงๆค่ะ



ไม่พูดพร่ำทำเพลงบอกคุณป้าที่รับออเดอร์ว่า ขอ"ทันโปโปะออมไรซ์" (タンポポオムライス) ที่หนึ่งคะ เนื่องจากเป็นเซทกลางวัน คุณป้าก็จะให้เลือกว่าระหว่างโคลสลอว์ กับซุปบอร์ช (ซุปบีทรูทสไตล์รัสเซีย) จะรับอะไรดี พีก็เลือกเป็นโคลสลอว์มา คุณป้าก็หยิบโคลสลอว์ที่ทำใส่ตู้แช่ไว้ออกมาเสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ ขอบอกว่าโคลสลอว์อันนี้เป็นสไตล์ออริจินัลจริงๆ เพราะใส่วินิการ์กับกะหล่ำปลีเท่านั้น ไม่มีมายองเนสแบบโคลสลอว์สไตล์KFCนะคะ รสชาติสดชื่นมาก

นั่งซักแป๊ป แอบดูโต๊ะข้างๆเค้าสั่งอาหารไป เมนดิชของเราก็มา

ทันโปโปะออมไรซ์


เป็นข้าวห่อไข่แบบฟูๆ กรีดไข่ออกมาแล้วแบบลาวาไหล อันนี้ต้องแอบขโมยรูปจากเวบมาให้ดูเพราะรูปของพี...ไม่ได้ถ่ายมา ฮ่า เห็นแล้วตื่นเต้น เลยกินไปซะก่อน ข้าวที่โดนโปะมาเป็นข้าวผัดไก่ค่ะ รสอ่อนๆ ต้องราดซอสมะเขือเทศที่เค้าให้มา หอมเนยมาก พอตักเข้าปาก (แต่ขอบอกว่า กินมากๆก็แอบเลี่ยนได้ ดังนั้น โคลสลอว์ที่เราสั่งมาคู่กันนี่แหละค่ะ เข้ามาช่วยชีวิตไว้) ดูจานไม่ใหญ่แต่อิ่มเอาเรื่องนะคะ  เมนูอื่นๆในร้านก็ดูน่ากิน เห็นคนสั่งราเมงเยอะมาก ทั้งๆที่ไม่ใช่ร้านราเมงเลยคิดว่า สงสัยต้องกลับมาซ้ำ อีกอย่างที่อร่อยก็ฮายาชิไรซ์ที่พีเคยกินที่สาขาเซบุ อิเคะบุคุโระ (อ่านรีวิวได้ที่นี่)

ร้านนี้มาง่ายมากที่สุด (แต่ทางออกจะงงนิดนึง) ลงรถไฟใต้ดินสถานีNihonbashi ออกทางออกC2  ค่ะ โผล่ออกมาจะเป็นถนนใหญ่และมีซอยทางซ้าย เราเลี้ยวเข้าซอย ฝั่งตรงข้ามจะเห็นร้านTameiken เลยแบบรูปด้านบนเลยค่ะ ใครไปแถวนั้น อย่าลืมแวะไปชิมนะคะ

Tameiken (たいめいけん)
Nihonbashi, Tokyo
Website: http://www.taimeiken.co.jp/



View Larger Map

Friday 8 November 2013

Paneria

สวัสดีค่ะ หลังจากไปชิมไก่ย่างที่เจนีวากับนาโอะไปแล้ว เอนทรี่นี้เรากลับมาชิมขนมที่ปรากกันต่อนะคะ

ร้านนี้ชื่อ Paneria (ทีแรกเกือบสับสนกับนาฬิกายี่ห้อดังซะแล้ว อร๊าย) เป็นร้านที่มีสาขามากมายทั้งในปรากและเมืองอื่นๆ พอดีเดินผ่านร้านทีไรก็มีแต่ตอนค่ำๆ เลยได้รูปหน้าร้านเวอร์ชั่นสลัวๆแบบนี้มา




สาขาที่พิมมิยะไปอยู่ที่ถนน Národni เดินจากเมโทร Můstek - B ไปหน่อยนึง ที่จริงสาขาใกล้ๆสถานีก็มีเหมือนกัน แต่สาขานี้อยู่ใกล้กับห้าง Tesco เป้าหมายของพวกเราในค่ำคืนนี้มากกว่า เพราะตั้งใจว่าจะมาซื้อของฝากที่ซูเปอร์ชั้นใต้ดินของห้างนี้กัน ของเค้ามีให้เลือกเยอะใช้ได้ค่ะ ใครชอบเดินซูเปอร์ก็อย่าลืมแวะไปจับจ่ายนะคะ 

ออกอ่าวไปเรื่องซูเปอร์ซะงั้น กลับมาต่อกันที่ร้านดีกว่า ในร้านเป็นแนวคาเฟ่ มีโต๊ะให้นั่งทานในร้าน มีไวไฟให้เล่นฟรีด้วย แต่ไม่ได้ลองว่าเร็วรึเปล่า เพราะจะรีบไปช้อปให้ทันก่อนห้างปิด ฮ่า~

มีขายทั้งพวกแซนด์วิช สลัด ที่ไม่ได้ลองชิม



ไปจนถึงเค้กทั้งหลาย เห็นแล้วทำเอาลังเลว่าจะชิมชิ้นไหนดี อยากลองหมดเลย >_<



สุดท้ายก็เลือกชิ้นนี้มาค่ะ เป็นเค้กชอคโกแลตเนื้อหนักๆคล้ายบราวนี่ โปะหน้าด้วยครีม บราวนี่ และถั่วลิสง ราคา 30 CZK ตัวเค้กเฉยๆค่ะ ชอคโกแลตไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่ แต่พอเอาส่วนประกอบทุกอย่างตักเข้าปากในคำเดียวกันนี่แบบ.. โอ้ว.. มันเข้ากันดีแท้ อร่อยใช้ได้ค่ะ



ทีแรกว่าจะสั่งแค่ชิ้นเดียว เพราะคนที่ไปด้วยกันเค้าประกาศกร้าวว่าจะช่วยชิมแค่ไม่กี่คำ แต่ด้วยความตะกละของพิมมิยะ เลยขอชิมอีกซักชิ้นค่ะ เป็นเค้กหน้าสตรอว์เบอร์รี่สอดไส้มูสโยเกิร์ต 30 CZK อีกเช่นกัน (ถูกมากง่ะ ซื้อที่บ้านเราสงสัยจะแพงกว่านี้เท่าตัว) ตัวเค้กนุ่ม มูสก็อร่อย ใครที่ชอบเค้กแนวผลไม้เปรี้ยวๆหวานๆก็ลองสั่งมาชิมดูนะคะ



สำหรับอย่างอื่นๆ พิมมิยะยังไม่มีโอกาสได้กลับไปลองชิมอีก ใครที่ไปเที่ยวเช็กก็แวะไปชิมเผื่อด้วยนะค้า :D

Paneria Národni
Národni 117/18, 110 00 Praha, Prague
http://www.paneria.cz/en


View Prague in a larger map

ピム宮 ~ pimmiya