Pages

Tuesday 22 October 2013

Irifune Sushi (入船寿司)



เอนทรี่นี้พีจะพาไปร้านไฮไลท์ของทริปนี้เลย ด้วยความที่ต้องไปแถวJiyugaoka พีก็ลองเสิร์ชๆหาร้านอาหารแถวนั้น ก็เจอร้านIrifune Sushi ที่เดินไม่ไกลจากสถานี Jiyugaokaสักเท่าไหร่ ร้านนี้tabelogให้คะแนน 3.6 ส่วนเรทติ้งที่อื่นได้ 4.5 จาก 5 คิดแล้วว่าต้องไม่ธรรมดา ประมวลจากรูปภาพและรีวิว คนจะสั่งโอโทโร่อะบุริด้ง (Otoro Aburi Don - 大トロのあぶり丼) หรือข้าวหน้าโอโทโร่ลนไฟ เห็นแล้ว คนรักโอโทโร่ก็คิดว่าทริปนี้เราจะไม่พลาดเด็ดขาด


ด้วยความที่ไปซิ่งแถวอื่นมาก่อน กะว่าให้ซาหลังเที่ยงสักหน่อย (ญี่ปุ่นตอนเที่ยงนี่ คิวกินข้าวโหดมากจริงๆ ถ้าไม่กินก่อนก็ต้องกินหลัง) พีเลยไปถึงบ่ายสองกว่า ปรากฎว่า ไม่มีใครเลย โผล่หน้าเข้าไป เจอเจ้าของร้านกำลังเตรียมปลาอยู่ ยังต้องถามว่า นี่เปิดรึเปล่า เค้าก็เชิญเลย สั่งไปเสร็จสรรพ แล้วก็นั่งรออาหาร


เสน่ห์ของการมากินซูชิแล้วนั่งเคาท์เตอร์คือการได้ดูเชฟเตรียมอาหารและพูดคุยกัน คุณพ่อเจ้าของร้านก็แบบชวนคุย เราก็เลยต้องสปีคญี่ปุ่นกระท่อนกระแท่นไปว่ามาจากเมืองไทย เห็นร้านในเวบก็อยากมามากๆ คุณพ่อก็แบบดีใจขอบคุณที่มา แล้วก็เอาปลามาให้ชม จากรูปข้างบน โอโทโร่ อยู่ด้านซ้าย มากุโร่อยู่ด้านขวา ตรงกลางน่าจะเป็นชูโทโร่ แล้วคุณพ่อก็บอกว่า "Otoro Number 1!" พร้อมโชว์นิ้วโป้ง เชื่อค่ะคุณพ่อว่าโอโทโร่เนี่ย เยี่ยมจริงอะไรจริง ฮ่า หลังจากนั้นคุณพ่อก็แล่ปลาแล้วก็ส่งไปลนไฟหลังร้าน



ก่อนจานหลักมา ของเรียกน้ำย่อยก็มาก่อน เป็นแซลม่อนต้มซีอิ้วแช่เย็น คนไทยอาจจะฝืนความรู้สึกนิดนึง ของแบบนี้มากินเย็นๆน้ำกลายเหมือนเป็นเยลลี่ได้ยังไง แต่ว่า อร่อยมากเลย ยิ่งเดินเหงื่อซึมมา อร่อย ไม่เค็มไป กำลังพอดี (แต่คิดว่าถ้ากินตอนร้อน คนชอบเค็มแบบพีต้องว่ามันจืดไปแน่ๆ เพราะส่วนมาก เวลาเย็นแล้วอาหารมักจะเค็มขึ้น)

ละเลียดซักพัก จานหลักก็มา



ขอบอกว่าตอนเค้ายกโอโทโร่ลนไฟมา ก่อนจัดลงจาน กลิ่นหอมมาก หอมเหมือนเนื้อย่างเลย สีก็เหมือน  พอจะลงมือจัดการ คุณพ่อก็บอกว่าไม่ต้องใส่ซอสนะจ๊ะ เพราะที่ลนไฟมาจะมีพรำๆซอสมาแล้ว ไอ้เราตอนแรกก็แบบจะดีหรอ ไม่จืดหรอ แต่เอาก็เอา เจ้าของร้านบอกก็ต้องเชื่อ ปรากฎว่า อร่อยมากกกกก ลงตัวสุดๆ ผิวด้านนอกดูสุกแต่พอกัดเข้าไป เนื้อข้างในยังเป็นสีชมพูอ่อนสไตล์โอโทโร่อยู่เลย เนื้อนุ่มละลายในปาก คุณพ่อแล่หนาพอดีไม่ได้บางเฉียบอย่างที่เห็นในซุปเปอร์ฯ สุดยอดมากจริงๆ คุ้มค่ากับค่าเสียหายมาก (เอาไว้ตอนท้าย เพราะเดี๋ยวรู้ก่อนจะไม่เซอร์ไพรซ์) แบบของดีมันเป็นอย่างงี้นี่เอง แล้วจะบอกเลยว่า เหมือนจะน้อย แต่เยอะมาก เชื่อเถอะค่ะว่าเยอะ คนกินจุแบบพีการรันตีเลยว่า พอกินไปสัก1ใน4ของชามแล้วยังแอบเหนื่อย ถือว่าคุ้มและอิ่มมาก กินแนมไปกับเครื่องเคียงที่มากับจานหลัก ได้แก่ผักดอง ไข่หวาน และซุปหอยกาบ นับว่าเป็นมื้อที่อิ่มเอมใจ ยิ่งตอนทานเสร็จจ่ายตังค์แล้วบอกคุณพ่อว่า อร่อยมาก คนทำก็ดีใจคนกินก็ดีใจ กว่าจะออกจากร้านได้โค้งกันแล้วโค้งกันอีก นี่แหละญี่ปุ่นของจริง ฮ่า

มาถึงค่าเสียหาย 10,500เยนค่ะ (รวมแทกซ์แล้ว แต่คิดว่าหลังจากนี้ราคาจะขึ้นเป็น 10,800 เยน เพราะภาษีมูลค่าเพิ่มของญี่ปุ่นปรับขึ้นจาก 5% เป็น 8%แล้ว) ราคาอาจจะดูโหดไปมาก แต่ขอบอกว่ามันคุ้มจริงๆ ถ้าใครว่าราคาสูงไป อาจจะลองเป็นมากุโร่อะบุริด้งที่ราคาย่อมเยาว์ลง หรือจะเป็นแบบที่ไม่ลนไฟ หรือเป็นซูชิอื่นก็มี เท่าที่ดู ของเค้าสดใหม่ น่ากินไปหมด สำหรับพีร้านนี้ highly recommended และจะกลับไปซ้ำแน่นอน

ร้านนี้ไปไม่ยาก ร้านอยู่ใกล้สถานีOkusawaมาก เดินออกจากสถานีหันซ้ายเดินตรงไปถึงเลย แต่ว่าสถานีOkusawaสายรถไฟที่ผ่านอาจจะไม่หลากหลายเท่าสถานีJiyugaoka ถ้ามาจากสถานีJiyugaoka ออก South Exit แล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปจนเจอถนนใหญ่ที่มองทางซ้ายจะเป็นทางรถไฟและที่กั้น เราเลี้ยวขวาค่ะ แล้วเดินตรงอย่างเดียว จนเจอสถานีOkusawaทางซ้ายมือ แล้วก็จะถึงร้าน

Irifune Sushi (入船寿司) 
Okusawa, Setagaya, Tokyo
Tabelog: http://tabelog.com/tokyo/A1317/A131711/13003244/



View Larger Map

Wednesday 9 October 2013

Aoyama Flower Market TEA HOUSE

お久しぶりです!

รู้สึกเหมือนห่างหายไปนานมากเลยกับการอัพบล็อค (จริงๆแล้วก็เพราะไม่ได้ไปไหน + ขี้เกียจ) เลยมีแค่สองสาวนาโอะกับพิมมิยะรับช่วงกันเรื่อยมา อาทิตย์ก่อนได้ไปชาร์จแบตเพิ่มพลังชีวิตที่โตเกียวมาอาทิตย์นึง เลยพอจะมีร้านให้ได้รีวิวติดไม้ติดมือกับเค้ามาบ้าง เริ่มต้นที่ร้านแรกเลย Aoyama Flower Market TEA HOUSE

ถ้าใครมาญี่ปุ่นจะสังเกตุเห็นร้านขายดอกไม้ที่มีซุ้ม/ร้านตามห้างใหญ่ๆในโตเกียว(และแถบคันโต - แถบอื่นพีไม่แน่ใจเท่าไหร่) ชื่อ Aoyama Flower Market เรียกว่าเป็นร้านดอกไม้เชนใหญ่ที่สุดเลยก็น่าจะไม่ผิด ร้านนี้แรกๆขายแต่ดอกไม้ แต่ตอนหลังหันมาจับตลาดคาเฟ่ด้วย โดยอาศัยเอกลักษณ์คือเปิดร้านคาเฟ่ในร้านดอกไม้ ให้บรรยากาศเหมือนนั่งจิบชาในสวนดอกไม้ โดยจะมีอยู่สองสาขาคือ ที่อาโอยาม่า (ร้านสาขาแม่) กับที่ห้าง Atre Kichijoji พีมีโอกาสใช้บริการที่สาขาในห้างAtre Kichijoji 




บรรยากาศในร้าน จะดูโปร่งๆ เอาดอกไม้ต้นไม้มาวาง จัดให้เหมือนเรานั่งในสวนเลย ที่นี่ดูโล่งโปร่ง เพราะเค้าจัดให้คนที่ไม่ได้ใช้บริการคาเฟ่เดินผ่านร้านไปมาได้ มันเลยเหมือนนั่งอยู่ริมถนน ดูผู้คนไปมา คั่นกลางระหว่างโต๊ะก็จะมีกระถางต้นไม้วางอยู่ ดอกไม้นี่เหมือนเค้าจะเวียนไปแต่ละอาทิตย์ ตอนที่พีไปจะเป็นดอกCosmos (ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยเรียกว่าดอกอะไร ใครรู้บอกด้วยนะคะ)

ร้านนี้เป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นคือ เดินไปสั่งอาหารที่เคาท์เตอร์ จ่ายเงิน รับของหรือเดี๋ยวเค้าเอามาส่ง พีไปถึงบ่ายโมงกว่า หิวมากเลย ร้านนี้จริงๆเค้าไม่เน้นอาหารคาว แต่ว่าก็จะมีset lunch ขาย อย่างเช่น เซทสลัด เซทสตู หรือเซทครอกเมอร์ซิเออร์ โดยในเซทก็เลือกเครื่องดื่มได้ พีเลือกเป็นเซทสตูเนื้อ + Rose Soda


รับโซดากุหลาบมาจิบก่อน เท่าที่รู้ ร้านนี้ค่อนข้างจะดังเรื่องชากุหลาบ/โซดากุหลาบ รสชาติไม่หวานเลย หอมกลิ่นกุหลาบ ส่วนตัวแอบกังวลเล็กน้อยเพราะเคยเจอน้ำกลิ่นกุหลาบที่เหมือนกุหลาบทั้งสวนมาลง แต่อันนี้ขอบอกว่าสบายมาก


สตูเนื้อเสิร์ฟพร้อมขนมปัง


ราดครีมสดลงไป

นั่งชมร้านถ่ายรูปไปซักพัก พนง.ก็ยกสตูมาส่ง น่ารักมาก จานชามจัดมาลักษณะแบบมินิมัล สไตล์ญี่ปุ่นสุดๆ รสชาตินี่ไม่ต้องพูดถึง เข้มข้นอร่อยมาก ไม่ออกเปรี้ยวเกินไป กินคู่กับขนมปังแล้วแฮปปี้สุดๆ เห็นสาวๆญี่ปุ่นสั่งชาร้อนมาดื่มพักเท้าหลังจากชอปปิ้งกัน ก็หมายตาว่าถ้ากลับมาครั้งหน้าจะขอมาแก้มือชิมชาร้อนๆในบรรยากาศสวยๆแบบนี้อีกบ้าง เอาไว้คราวหน้าไปเยี่ยมชมสาขาแม่ดีกว่า

ใครที่รักดอกไม้แล้วมองหาอาหารกลางวันง่ายๆ หรือคาเฟ่ชิลด์ๆ ในย่านอาโอยาม่ากับคิชิโจจิ อย่าลืมมาลองร้านนี้ดูนะคะ

Aoyama Flower Market TEA HOUSE
Atre Kichijoji B1F
เปิด 10:00~21:00 

Website: http://www.afm-teahouse.com/



View Larger Map