Pages

Tuesday 31 December 2013

Woof Curry

ส่งท้ายปีด้วยเอนทรี่สุดท้าย(ของพี)สำหรับปีนี้ ด้วยร้านข้าวแกงกะหรี่ในเมืองที่คนไทยนิยมไปไหว้พระมากที่สุดในญี่ปุ่น ใช่ค่ะ พระใหญ่ที่เมืองคามาคุระ ขอบอกว่าร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากไดบุตสึ (พระใหญ่) และวัดฮาเซะเดระที่มีเจ้าแม่กวนอิม จุดเช็คพอยท์ของเมือง เรียกได้ว่า ถ้าไหว้พระเสร็จ หิวๆละก็ ร้านเป็นออพชั่นที่ดีมากเลยค่ะ

ต้องขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านหรือในร้านมาเลย เพราะว่ามีลูกค้าในร้านอยู่ เลยไม่อยากรบกวนเวลากินข้าวของทุกท่าน ร้านนี้ขายแต่ข้าวแกงกะหรี่อย่างเดียวค่ะ แต่จะเลือกเนื้อสัตว์หรือเป็นผักก็ได้ แล้วแต่ท่าน แล้วก็เลือกแบบเข้าเซทกะเครื่องดื่มขนมหวานได้ พีสั่งแค่จานเดี่ยว เป็นข้าวแกงกะหรี่ไก่

เค้าจะเสิร์ฟมาพร้อมกระเทียมดอง (ขอบอกว่าดีงามมาก เข้ากับแกงกะหรี่สุดๆ อร่อยมากๆๆๆๆๆ) และผักดอง แกงกะหรี่ร้านนี้จะออกอินเดียมากกว่าแกงกะหรี่ญี่ปุ่นที่เราพบได้ทั่วไป (แบบร้านโคโคฯ) รสชาติเข้มข้น แต่ไม่ฉุนเครื่องเทศแบบอินเดียแท้ๆ เอาเป็นว่าเค้ามาแบบลูกครึ่งจริงๆ รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดเกินไปแต่พอมีรสบ้าง คนไทยน่าจะถูกปาก ไก่ชิ้่นโตไม่หวงกันเลยทีเดียว สนนราคา 850เยน ถือว่าไม่แพงเลยทีเดียว



ร้านนี้มีสองชั้น ชั้นล่างจะเป็นopen kitchen เห็นพ่อครัว(หรือเจ้าของร้านนั่นเอง) ปรุงแกงกะหรี่ทุกจานเสิร์ฟเอง ชั้นสองจะโล่งๆกว่า เห็นวิวริมถนน (แต่บันไดชันมาก โปรดระวังค่ะ) ส่วนตัวชอบใจแกงกะหรี่ร้านนี้มากจริงๆ เป็นรสชาติที่หากินในไทยไม่ค่อยได้ สำหรับแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ถ้าใครเป็นแฟนแกงกะหรี่แล้วได้ไปไหว้พระใหญ่ ลองแวะร้านนี้ไม่เสียใจแน่นอนค่ะ ร้านอยู่ใกล้สถานีHase ของEnoden เลย ถ้าไปหน้าร้อน เดินทะลุซอยข้างๆร้านไปชิลด์แถวชายหาดYuigahama ก็เลิศค่ะ

((ก่อนจากไปก็ขอให้ปีหน้าทุกท่านมีความสุขมากๆ คิดสิ่งใดก็สมความปรารถนาทุกประการนะคะ เราสามคนสัญญาว่าจะหาของกินมาแชร์กับทุกท่านต่อไปเรื่อยๆ -- เพราะตอนนี้ตารางเที่ยวของเราสามคนออกแล้ว ขอบอกว่าปีหน้าไม่มีคำว่าผิดหวังค่ะ! ฮ่า))

Woof Curry
Hase, Kamakura, Japan
Website: http://www.woof-curry.com/
Tabelog: http://tabelog.com/kanagawa/A1404/A140402/14012040/

View Larger Map

Thursday 12 December 2013

Pho Vietnam Tuan & Lan

สวัสดีค่ะ เอนทรี่นี้จะพาไปชิมเฝอร้อนๆรสชาติดีๆที่กรุงปรากกันนะคะ ใครที่เคยหาข้อมูลร้านอาหารในเช็กคงได้ยินกิตติศัพท์ของอาหารประเทศนี้ดีว่ามันเป็นอะไรที่ชวนให้อ้วนมาก เพราะเป็น high fat & high carb ตัวจริงเสียงจริง หลายวันที่พิมมิยะแอนด์เดอะแก๊งอยู่ในเช็กถ้าให้เสพอาหารเนื้อๆเน้นๆแบบนั้นทุกมื้อมีหวังเลี่ยนตาย พวกเราเลยขอพักจากมื้อหนักๆมาเป็นอาหารเอเชี่ยนเบาๆกันซักมื้อ 

บังเอิญพิมมิยะเสิร์ชไปเจอร้าน Pho Vietnam Tuan & Lan ที่คนท้องถิ่นรีวิวไว้ ดูๆแล้วน่าจะอร่อยใช้ได้ เลยจัดไปเป็นมื้อค่ำวันนึง รูปหน้าร้านเลยมืดๆมัวๆด้วยประการฉะนี้ :D



เมนูพร้อมรูปประกอบอยู่ที่ข้างฝา ที่จริงมีเยอะกว่านี้ แต่ลืมถ่ายมาค่ะ อารมณ์คนมันหิว



เฝอเนื้อ (99 CZK) ของพี่จุ๊บ หน้าตาดูดีมาก :D



ของพิมมิยะเป็นเฝอไก่ (99 CZK) ที่ดันลืมถ่ายรูปตอนก่อนทานเอาไว้ ในรูปนี่หมดไปเกือบครึ่งชามแล้วค่ะ ฮ่า~ เป็นเฝอสไตล์เวียดนามที่ใช้เส้นหน้าตาคล้ายเส้นเล็กบ้านเรา แต่นุ่มกว่านั้นมาก จำได้ว่าเคยทานเฝอที่เวียดนามก็เป็นเส้นแบบนี้ (คุณผู้อ่านอย่านึกถึงเส้นก๋วยจั๊บญวนเชียวนะคะ มันต่างกันโดยสิ้นเชิง) ใส่อกไก่ต้มแล่เป็นชิ้นบางๆกับถั่วงอก โรยด้วยต้นหอมและหอมใหญ่ซอย ขอบอกว่าน้ำซุปอร่อยมาก บีบมะนาวใส่ไปซีกนึง รสชาติกลมกล่อมยิ่งนัก อากาศหนาวๆอย่างนี้ ได้ทานซุปร้อนๆคล่องคอนี่มี่ความสุขที่ซู้ด~



ส่วนแท่งๆที่เห็นด้านซ้ายมือของภาพ เป็นปอเปี๊ยะทอดค่ะ รู้สึกจะ 30 CZK แต่ไม่อร่อย แป้งเหนียวเกินไป ไม่กรอบ ส่วนไส้ก็งั้นๆ อันนี้ไม่แนะนำค่ะ

คุณถุงสั่งข้าว คล้ายๆเนื้อบดปั้นเป็นก้อนราดซอสเปรี้ยวหวาน จำราคาที่แน่นอนไม่ได้แล้ว ประมาณ 100 กว่าเหรียญ จานนี้เค้าว่ากันว่าเฉยๆค่ะ พิมมิยะไม่ได้ชิมอีกตามเคย เพราะเป็นเนื้อวัว



บรรยากาศในร้าน ทุกคนต่างก้มหน้าก้มตายืนโซ้ยกัน ร้านนี้ไม่มีที่ให้นั่งค่ะ แล้วก็ต้องบริการตนเองทุกขั้นตอนไปจนถึงเอาอาหารและภาชนะไปทิ้ง (แอบนึกถึงร้านราเมงยืนกินที่ญี่ปุ่น อารมณ์คล้ายกันเลย หุหุ) ใครที่อยากสัมผัสรสชาติและบรรยากาศแบบนี้ เชิญตามพวกเราไปชิมได้เลยค่ะ รับรองว่าอร่อยจริง :D



View Prague in a larger map

Pho Vietnam Tuan & Lan
Slavikova 1657/1 120 000 Prague
Open daily 10:00-22:00
http://photuanlan.com/

ปล.ถ้าไม่อยากยืนรับประทาน ทางร้านเค้ามีอีกสาขานึงที่มีโต๊ะให้นั่ง ลองดูในเว็บไซต์ของร้านนะคะ 

Special thanks: พี่จุ๊บ สำหรับความอนุเคราะห์รูปเฝอเนื้อและบรรยากาศในร้าน ขอบคุณมากๆค่า รักนะจุ๊บๆ :D

ピム宮 ~ pimmiya

Tuesday 3 December 2013

Confiserie Sprungli -- Luxemburgerli ®

สวัสดีค่ะ

หลังจากทานอาหารคาวใน Switzerland มาหลายร้านแล้ว นาโอะขอรีวิวของหวานบ้างดีกว่า (และหลังจากนี้ไปก็จะมีแต่ของหวาน แหะๆ)

วันนี้นาโอะจะมาแนะนำร้านช็อกโกแลตชื่อดังแห่งเมืองซูริคค่ะ ร้านนี้ดังมาก คิดว่าหลายๆ คนคงจะรู้จักกันดี ชื่อร้าน Sprungli ซึ่งเป็นร้านช็อกโกแลตประจำซูริคก็ว่าได้ ร้านนี้มีช็อกโกแลตมากมายให้เลือกสรรค่ะ พวก Truffles ก็มีล้นหลามมาก เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว แต่วันนี้นาโอะไม่ได้จะมารีวิว Truffles ค่ะ แต่จะมารีวิวขนมหวานที่คล้ายๆ Macaron แต่ว่าเค้ามีชื่อเรียกพิเศษว่า Luxemburgerli (ชื่อยาวมาก ไม่เคยออกเสียงถูกเลยซักครั้ง)

หน้าร้านสาขาใหญ่ในซูริค

ดิสเพลย์ Luxemburgerli หน้าร้าน

นาโอะตั้งใจอย่างยิ่งว่าจะต้องไปลองชิมให้จงได้ เพราะขนมอะไร รูปร่างหน้าตามันช่างน่ารักน่าชัง อยากจะลองมันทุกสีทุกรส ต้องออกตัวก่อนว่า ส่วนตัวนาโอะไม่ค่อยชอบทาน Macaron เท่าไหร่นะคะ อาจจะไม่สามารถบรรยายความอร่อยเปรียบเทียบกับยี่ห้อนู้นนี้นั้นได้เยอะนัก 

Luxemburgerli ของร้าน Sprungli มีหลายรสชาติมากค่ะ มีทั้งแบบผสมแอลกอฮอล์และแบบไม่ผสมแอลกอฮอล์ สาขาที่นาโอะเข้าไปซื้อ Luxemburgerli เป็นสาขาเล็กๆ ที่สถานีรถไฟ Zurich HB ค่ะ จำได้ว่าหิวมาก ตาลาย หน้ามืด แต่มีคิวต้องไปกินข้าวกลางวันที่ไหนซักแห่ง (เพื่อเอามารีวิวนี่แหละค่ะ) เลยต้องหิ้วท้องรอมื้อกลางวันไว้ก่อน นาโอะเลยบอกคุณผู้ชายว่า เราถือโอกาสจัด Luxemburgerli นี่กินกันดีกว่า ไม่พูดพร่ำทำเพลง นาโอะเดินดุ่มๆ เข้าไปในร้าน สั่งพนักงานขายว่า เอากล่องเล็ก ทุกรสชาติ ช่วยใส่มาให้หน่อย

หลายสีจริงๆ

หน้าตู้


พอได้ Luxemburgerli มาเต็มกล่อง (ประมาณ 18 ชิ้น) นาโอะก็จัดแจงถ่ายรูปพอเป็นพิเศษ แล้วก็รีบชิมทันใด ชิ้นเล็กน่ารัก สามารถเอาเข้าปากได้ทั้งชิ้น กินเข้าไปชิ้นแรก อืม...มันก็คล้าย Macaron นะ แต่ตอนที่ลองกิน Luxemburgerli นาโอะยังไม่เคยชิม Laduree เลยนะคะ รู้สึกแค่ว่า มันไม่ค่อยหวานดี แต่พอตอนหลังมาซื้อ Laduree ทานที่ปารีส ก็พบว่า Luxemburgerli ของ Sprungli อร่อยกว่างะ (แฟน Laduree อย่าว่าเค้านะ เอิ้ก) Luxemburgerli หวานน้อยกว่า หอมกว่า เลี่ยนน้อยกว่า กินได้หมดกล่องง่ายๆ เลย เหอๆ นาโอะว่า นาโอะกิน Luxemburgerli แล้วรู้สึกชอบมากกว่า Macaron ทั่วไปที่เคยกินมา

กล่อง

เรียงมาอย่างสวยงาม

รสไรก็จำไม่ได้ค่ะ แหะๆ

สาขาของ Sprungli มีเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะในซูริค มีสาขาตามเมืองต่างๆ ใน Switzerland อีกด้วย แนะนำคุณผู้อ่านลองเสริชดูจากในเวบของทางร้านนะคะ แต่ถ้าใครอยากไปสาขาต้นตำรับ ตามแผนที่ด้านล่างไปได้เลยค่ะ


View Larger Map

แล้วพบกันใหม่ค่ะ
nao

Sunday 1 December 2013

Lobkowicz Palace Cafe

สวัสดีค่ะ เอนทรี่นี้พิมมิยะจะพาไปทานอาหารในเขตปราสาทปรากกันนะคะ 

เมื่อมีโอกาสได้มาปราก ทุกคนคงไม่พลาดที่จะเข้าชม Prague Castle Complex ที่ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ข้างในนั้นมีสถานที่ที่น่าสนใจอยู่เยอะแยะ ใช้เวลากันค่อนวันก็ยังดูไม่หมด 

วันนั้นพิมมิยะแอนด์เดอะแก๊งเลยเลือกรับประทานมื้อเที่ยงกันที่ Lobkowicz Palace Cafe ซึ่งหาไม่ยากค่ะ เพียงแค่หาที่ตั้งของ Lobkowicz Palace ให้เจอ ยังไง้ยังไงก็ถึงร้านแน่ๆ :D (เดินเลยหอคอย Daliborka มาหน่อยนึงก็เจอแล้วแหละค่ะ) ตัวคาเฟ่อยู่ด้านล่างของปราสาท ไม่จำเป็นต้องมีบัตรเข้าชมปราสาทก็เข้ามาทานกันได้นะคะ 



ในวันที่อากาศดี นั่งจิบกาแฟชิลๆตรงระเบียง ชมวิวสวยๆของปรากก็เก๋ไม่หยอกค่ะ แต่พวกเราเลือกที่นั่งด้านในเพราะคนสูบบุหรี่กันเยอะมว้าก.. เบื่อร้านอาหารที่นี่ตรงนี้แหละค่ะ สูบในร้านกันอย่างไม่เกรงใจคนไม่สูบอย่างพวกเราบ้างเล้ย :(



เมนูอาหาร
>> http://lobkowicz.cz/data/1370435929419Lobkowicz_Cafe_Menu_2013.pdf 

เมนูเครื่องดื่ม
>> http://lobkowicz.cz/data/1370435939600Lobkowicz_Cafe_Menu_2013_Beverages.pdf 

จานที่พิมมิยะเลือกเป็น Parma ham and cheese panini (210 CZK) แซนด์วิชไส้ชีส Gruyere กับพาร์มาแฮม เสิร์ฟมากับ coleslaw และแป้ง tortilla ทอด



แหวกไส้ออกมาให้ดู เห็นชีสกรูแยร์หนืดๆยืดๆ เจ้าชีสนี่แหละค่ะที่เป็นต้นเหตุให้พิมมิยะสั่งจานนี้มา เพราะปกติเป็นคนชอบทานชีสมาก (กลับกันกับนาโอะ) ยิ่งตาลุกวาวเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นว่าเป็นชีสกรูแยร์ (แหมๆ ก็เค้าอยากจะชิมชีสชื่อดังบ้างนิ) ตัวชีสอร่อยดี  พาร์มาแฮมก็อร่อย แต่กัดไม่ค่อยจะยอมขาด -*- ขนมปังด้านนอกก็อบมาอุ่นๆ กรอบๆ สรุปว่าสมใจชีสเลิฟเวอร์อย่างพิมมิยะค่ะ



ส่วนโคลสลอว์กับแป้งตอร์ติญ่าทอดนี่แทบจะไม่ได้แตะ เพราะไม่ชอบทานกะหล่ำปลีดิบอยู่เป็นทุนเดิม โคลสลอว์ร้านนี้เป็นสไตล์อเมริกันคือใส่มายองเนส (อย่างที่พีได้พูดถึงในรีวิวก่อนหน้า) ส่วนแป้งทอดๆนี่ก็ไม่ใช่แนวพิมมิยะเหมือนกัน เลยเสร็จพี่จุ๊บกะหญิงอ้น 2 นางช่วยกันทานแป้งทอดจนเกลี้ยงเลย อิอิ..

ถัดมาเป็น Turkey wrap (210 CZK) ของหญิงอ้น เป็นแป้งตอร์ติญ่าห่อเนื้อไก่งวงอบ ผักกาด แครนเบอร์รี่ เสริมรสชาติด้วยมายองเนส เป็นเมนูเพื่อสุขภาพมากที่สุดของมื้อนั้นเลยมั้งเนี่ย เพราะปกติไก่งวงนี่ขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อสัตว์ที่โปรตีนสูงแต่ไขมันต่ำอยู่แล้ว ช่างต่างจากเมนูที่พิมมิยะสั่งซะนี่กระไร -"-



ส่วนคุณถุงสั่ง Lobkowicz-style "CZECH" goulash (220 CZK) ที่จริงกูลาชนี่เป็นสตูว์สไตล์ฮังกาเรียน แต่เมนูนี้จะต่างจากต้นตำรับยังไง อันนี้พิมมิยะก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เพราะชามนี้ทำจากเนื้อ เลยไม่ได้ลองชิม ส่วนคนสั่งเค้าบอกว่าอร่อยดี 



จานนี้เป็น Soup and 1/2 sandwich (190 CZK) ของพี่จุ๊บ เป็นซุปประจำวันซึ่งก็คือซุปมะเขือเทศค่ะ รสชาติออกเปรี้ยวๆหน่อย มาพร้อมกับแซนด์วิชครึ่งชิ้น แต่เจ้าตัวจำไม่ได้ว่าสั่งแซนด์วิชอะไรไป (นี่ขนาดผ่านมาไม่ถึงเดือนเลยนะคะเนี่ย ลืมซะแล้วพี่เรา หุหุ..)



ตามด้วย Soup and 1/2 sandwich ของน้องจิ๊บ แซนด์วิชเป็นบาแกตต์ไส้ roast beef น้องบอกว่าอร่อยดีค่ะ



ตามธรรมเนียม เสร็จของคาวก็ต้องหาอะไรมาล้างปาก (อันนี้ธรรมเนียมของพิมมิยะเอง ฮ่า~) แก้วนี้เป็น Algerian coffee (110 CZK) สำหรับคุณถุง เจ้า Algerian coffee นี่ดูเหมือนจะเป็นเมนูที่คิดขึ้นมาโดยบาริสต้าชาวเช็ก มิได้มีต้นกำเนิดมาจากอัลจีเรียแต่อย่างใด เป็นกาแฟที่ผสมกับ egg liqueur (ที่เห็นเป็นชั้นสีเหลืองนวลๆอยู่ก้นแก้ว เท่าที่เสิร์ชหาสูตรดู เป็นบรั่นดีตีเข้ากับไข่ หรือบางสูตรก็ใช้ eggnog ผสมบรั่นดี) โปะด้วยวิปครีมด้านบน คุณถุงบอกว่าอร่อยดีค่ะ



ส่วนสาวๆ ก็สั่ง Traditional Bohemian apple strudel (125 CZK) มาเป็นของหวาน แอปเปิ้ลสตรูเดิ้ลของร้านนี้เสิร์ฟมากับวิปครีม และวานิลลาซอส อร่อยทั้งตัวสตรูเดิ้ลและเครื่องเคียงค่ะ พิมมิยะชอบสตรูเดิ้ลของร้านนี้ แอปเปิ้ลเค้าชิ้นใหญ่ดี แป้งก็บางเฉียบ เสริมด้วยรสชาติของซอสและครีม เข้ากันดีจริงๆค่ะ เป็นหนึ่งในสตรูเดิ้ลที่อร่อยที่สุดที่เคยทานมาเลย >_<



ใครที่ไปเยือนปราสาทปราก อย่าลืมลองไปชิมร้านนี้ดูนะคะ อาหารง่ายๆ แต่อร่อยดีค่ะ :D

Lobkowicz Palace Cafe 
เปิดทุกวัน 10:00 - 18:00 
website http://www.lobkowicz.cz/en/Lobkowicz-Palace-Cafe-15.htm

ピム宮 ~ pimmiya