Pages

Tuesday 30 December 2014

Bazar

สวัสดีค่ะ เห็นใครบางคนกำลังไปเที่ยวออสเตรียอยู่ พิมมิยะเลยนึกครึ้มอยากจะระลึกถึงความหลังครั้งได้ไปเยือนบางส่วนของออสเตรียเมื่อปีที่แล้วบ้าง เรียกได้ว่าเอนทรี่นี้แอบดองกันข้ามปีทีเดียวค่ะ เอิ๊ก.. ละอายจัง >//<

ร้านที่จะพาไปในวันนี้เป็นคาเฟ่ชื่อดังของเมืองแห่ง The Sound of Music อย่าง Salzburg นั่นเอง มีชื่อว่า Cafe Bazar ค่ะ ว่ากันว่าเซเลบดาวดังทั้งหลายของโลกต่างก็มีโอกาสได้มาเยือนร้านนี้ คณะเราก็เอากะเค้ามั่งค่ะ ได้ยินมาว่า Apple strudel ของร้านนี้อร่อยมากมาย อย่างนี้ต้องขอพิสูจน์กันหน่อยเนอะ


ตัวร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Salzach ทางฟากเมืองใหม่ของ Salzburg มีทั้งที่นั่งในร้านกับที่นั่งด้านนอกรับลมเย็นๆค่ะ


เมนูอาหารและเครื่องดื่ม อันนี้เป็นของเก่าเมื่อ ต.ค. ปีที่แล้วนะคะ ไม่รู้ว่าตอนนี้ขึ้นราคาไปรึยัง


เปิดมาดันมาเป็นภาษาเยอรมันซะนี่ อย่างนี้กะเหรี่ยงไทยก็มั่วกันไป ^^"


Apple strudel อร่อยล้ำเลอค่า สมคำร่ำลือจริงๆค่ะ แป้งเค้าบางมาก สอดไส้ด้วยแอปเปิ้ลสไลซ์บางๆ


กาแฟอะไรซักอย่างค่ะ ลืมไปแล้ว แฮ่~


เครื่องดื่มที่พิมมิยะสั่งคือ Melange ค่ะ เป็นมอคค่าผสมนม ที่จริงแล้วเมนูนี้เป็นเครื่องดื่มชื่อดังของ Cafe Tomaselli คาเฟ่ร้านดังอีกร้านใน Salzburg ที่พิมมิยะไม่มีโอกาสได้ไปชิม ก็เลยเปรียบเทียบไม่ได้ว่าของใครอร่อยกว่ากัน แต่ว่าถ้วยนี้ของ Cafe Bazar ไม่อร่อยเลยค่ะ พลาดอย่างแรง เหอๆ


ที่อร่อยต้องเป็นถ้วยนี้ค่ะ "BAZAR" Melange คงเป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้าน ซึ่งทุกคนในโต๊ะชิมแล้วก็บอกเป็นเสียงเดียวว่าอร่อยค่ะ กลมกล่อมดี ใครที่ไปอย่าสั่งผิดนะคะ ต้อง "BAZAR" melange เท่านั้น


สรุปคือ Apple strudel ของร้านนี้เค้าอร่อยเวอร์จริงๆค่ะ อร่อยถึงขนาดพิมมิยะลืมแอปเปิ้ลสตรูเดิ้ลทั้งหลายที่เคยกินมาทั้งชีวิตไปเลย ฮ่า~ (เวอร์ไปมั้ยเนี่ย แต่อยากบอกว่าคิดอย่างงั้นจริงๆนะคะ) กับอีกอย่างที่น่าสั่งมาทานคู่กันคือ "BAZAR" Melange ค่ะ และถ้าจะให้ดีอย่าลืมไปชิม Melange ของ Cafe Tomaselli แล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ ว่าของใครแซ่บกว่ากัน อิอิ :D


Cafe Bazar
Schwarzstrasse 3, 5020 Salzburg, Austria

ピム宮 ~ pimmiya

Saturday 20 December 2014

Jeff de Bruges

สวัสดีค่ะ

นาโอะพาไปกินของหวานอีกแล้ว คราวนี้เป็นไอศกรีมแบบซอฟท์ครีมกันบ้าง ร้านนี้ชื่อว่า Jeff de Bruges เป็นร้านขายช็อคโกแลตของฝรั่งเศสค่ะ มีสาขาอยู่ทั่วประเทศฝรั่งเศสเลย นาโอะไม่มีโอกาสได้ชิมช็อคโกแลตของเค้า แต่จัดซอฟท์ครีมของเค้าไปสองรอบ!!!

ความพิเศษของซอฟท์ครีมร้านนี้คือ เค้ามีหลายรสชาติให้เลือกจ้า แถมยังสามารถเลือก Topping ได้อีกด้วย แต่เนื่องด้วยนาโอะเป็นพวก conservative ไม่นิยมกินอะไรแปลกประหลาด (ฮ่า) เลยจัดรสวนิลา + ช็อคโกแลตมาลองทาน 1 โคน เลือกไซส์ M ค่ะ

เมนูและเครื่องทำซอฟท์ครีม

ขอบอกว่า ซอฟท์ครีมเนื้อดีมากค่ะ นานๆ ทีจะหาร้านที่ขายซอฟท์ครีมเนื้อดีขนาดนี้ได้ ล่าสุดที่ได้ทานและคิดว่าคุณภาพใกล้เคียงกันคือร้าน Suzuki Enchaten ที่ Nagano ประเทศญี่ปุ่น 

ซอฟท์ครีมวนิลา + ช็อคโกแลต

เนื้อซอฟท์ครีมแข็งตัวกำลังดี เนื้อละเอียดมาก รสชาติไม่หวานเกินไป ช็อคโกแลตเข้มข้นมากกกก สรุป ฟินค่ะ ไปกินสองวันติดกันเลย ฮ่าๆ

บรรยากาศหน้าร้าน

หน้าร้าน

เมนู (ปี 2013)

ร้านนี้มีหลายสาขามากค่ะ คุณผู้อ่านสามารถหาสาขาในประเทศฝรั่งเศสได้จากในเวบไซต์ของทางร้าน แต่ร้านที่นาโอะไปทานอยู่  Champs Elysées ค่ะ

102 avenue des Champs Elysées
75008 PARIS, France




แล้วพบกันใหม่ค่ะ
nao

Friday 19 December 2014

ABACO Chocolatier Suisse

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน

นาโอะเอ๊ง...คือ ห่างหายไปจากการเขียนบล็อค 1 ปีเต็ม!!! รู้สึกละอายใจเป็นอย่างยิ่งที่ปล่อยให้พีกับพิมมิยะอัพกันอยู่สองคน (กราบขออภัยเพื่อนทั้งสองเป็นอย่างสูง) ระยะเวลาที่หายไป 1 ปีเนี่ย ไม่ใช่ว่าไม่ได้ไปไหนนะคะ แต่ว่าพอไปเที่ยวแล้วก็ต้องกลับมาทำงานใช้กรรมจนไม่มีเวลามาอัพบล็อค ตอนนี้มีร้านอาหารในสต๊อคที่จะอัพเป็น 10 ร้านเลยทีเดียว

วันนี้ขอต้อนรับลมหนาวในกทม.ด้วยร้านไอศกรีมเจ้าอร่อยจากเมืองเล็กๆ น่ารักๆ Schaffhausen, Switzerland ร้านนี้ชื่อว่า ABACO ค่ะ จริงๆ ร้านนี้เป็นร้านขายช็อคโกแลตของเมือง Schaffhausen แต่ในร้านก็ไม่ได้ขายแค่ช็อคโกแลตอย่างเดียว ยังมีไอศกรีมโฮมเมดขายอีกด้วย (นาโอะไม่อยากจะเมนชั่นถึงร้านไอศกรีมร้านดังของสวิสหรอกนะคะ แต่ขอบอกว่า วันนั้นที่นาโอะกินไอศกรีมร้านนี้ นาโอะกลับไปกินไอศกรีมเจ้าดังที่ยี่ห้อขึ้นต้นด้วย M ด้วย ปรากฏว่า M รสชาติพ่ายแพ้หลุดลุ่ย)

ตอนแรกตั้งใจเข้าไปนั่งหลบหนาวในร้าน ก็สั่ง 1 ถ้วย 2 scoop ทานกันสองคนค่ะ แต่ปรากฏว่า รสชาติดีงามมาก เลยต้องสั่งอีก 1 ถ้วยกินแก้หนาว แหะๆ


ถ้วยแรกเป็นรส Pistachio (ทางร้านใช้ชื่อว่า Pistazie) กับ Stracciatella ทั้งสองรสอร่อยมากค่ะ Pistachio มีกลิ่นหอมของ Pistachio ชัดเจน (ไม่เจือจางเหมือนร้านอื่น) ส่วน Stracciatella เป็นรสนมผสมช็อคโกแลตชิพ เนื่องจากเค้าใช้นมคุณภาพดี ไอศกรีมรสนี้เลยมีรสชาติและกลิ่นของนมที่อร่อยมากๆ ค่ะ


ถ้วยที่ 2 เป็นรส Chocolat กับ Tiramisu มาทานไอศกรีมร้านขายช็อคโกแลตแต่ไม่ทานรสช็อคโกแลตได้อย่างไร รสชาติของช็อคโกแลตเข้มข้นมากๆ ค่ะ ไม่ขมและไม่หวาน กำลังดี ส่วน Tiramisu ก็มีกลิ่นหอมของกาแฟกำลังดีค่ะ ไม่หวานมาก (นาโอะกับคุณผู้ชายไม่ชอบทานหวานนัก) สรุปว่า ทั้ง 4 Scoop อร่อยมากค่ะ 

บรรยากาศภายในร้าน

เครื่องคิดเงินรุ่นโบราณ (เอาไว้ตั้งโชว์เฉยๆ)

ไอศกรีมมมมม

รสชาติทั้งหมด

หน้าร้าน


คุณผู้อ่านที่มีโอกาสแวะไปเยือน Schaffhausen อย่าลืมแวะไปชิมไอศกรีมร้านนี้นะคะ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ABACO Chocolatier Suisse
Safrangasse 2, 8200 Schaffhausen, Switzerland



nao

Saturday 11 October 2014

Yojiya Cafe よーじやカフェ

สวัสดีค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารคาวไปทานของหวานกันบ้างดีกว่า เชื่อว่าหลายๆคนคงรู้จัก Yojiya เครื่องสำอางค์ยี่ห้อดังจากเกียวโตแน่ๆ วันนี้พิมมิยะไม่ได้จะพาไปดูเครื่องสำอางค์นะคะ แต่เป็นคาเฟ่ของร้าน Yojiya ซึ่งมีหลายสาขาด้วยกัน อย่าง Arashiyama, Ginkakuji แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิต หรือในโตเกียวก็มีที่ Shibuya และสนามบินฮาเนดะค่ะ ซึ่งเมนูของแต่ละสาขาก็จะแตกต่างกันไปบ้าง

สาขาที่พิมมิยะไปชิมอยู่ที่ Sanjo ย่านช้อปปิ้งกลางเมืองเกียวโต อยู่ไม่ไกลจากร้าน Katsukura สาขาแรกเท่าไหร่ค่ะ เดินจากหน้าร้าน Katsukura ไปทางตะวันตก 2 บล็อคก็ถึงแล้ว :D

พูดถึงเกียวโต แทบทุกคนก็ต้องนึกถึงชาเขียวอร่อยๆ และแน่นอนว่า Yojiya cafe ก็ขายขนมที่ทำจากชาเขียวนี่แหละค่ะ

สำหรับเมนูก็มีทั้งขนมพวกเบเกอรี่ทั้งหลายที่ทำจากชาเขียว ไอศครีม ของคาวพวกพาสต้า พิซซ่า แล้วก็เครื่องดื่ม พิมมิยะกับเพื่อนเลือกเซตเมนูตามรูปข้างล่างค่ะ เป็น Matcha cappuccino ร้อนหรือเย็น กับขนม 1 อย่าง ราคาเซตละ 1,200 yen (ราคาก่อน vat จะขึ้นเป็น 8% นะคะ) ขนมมีให้เลือก 4 อย่าง เป็น ชิฟฟอนชาเขียว, โรลชาเขียว, ชีสเค้กชาเขียว แล้วก็ creme brulee ชาเขียวค่ะ จะว่าไปราคานับว่าค่อนข้างสูงเอาการ แต่พิมมิยะคิดว่าคูณเป็นเงินไทยก็อาจจะสูสีกับทานขนมในร้านดังๆแพงๆ ในกรุงเทพฯนะคะ



พิมมิยะสั่งเครมบรูเล่ เสิร์ฟมากับไอศครีมวานิลลา และเกาลัดเชื่อม อร่อยค่ะ หอม มัน ไม่ผิดหวังจริงๆ



และถ้วยนี้ที่เป็นไฮไลท์ของทางร้านค่ะ คงเอกลักษณ์ความเป็น Yojiya ไว้เป็นอย่างดี เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ แต่ไม่ได้มีดีแค่สวยนะคะ อร่อยด้วย หอมชาเขียวสุดๆ ชอบๆๆ :D



ของคุณเพื่อนสั่งมัทฉะคาปูชิโนร้อนเหมือนกัน เอามาทานกับ Matcha roll จานนี้ก็อร่อยค่ะ แต่พิมมิยะปลื้มเครมบรูเล่ของตัวเองมากกว่า ตามสไตล์คนชอบทานอะไรครีมๆ มันๆ หุหุ ปลิ้นเลย~



ข้อเสียที่พบจากร้านนี้คือ ไม่มีที่นั่งแบบไม่สูบบุหรี่แยกออกมาค่ะ ตอนพิมมิยะไปก็ต้องทนดมควันจากโต๊ะข้างๆ แอบเซ็งเล็กน้อยอะ แต่ยอมเค้า เพราะความน่ารักมุ้งมิ้งและอร่อยนี่แหละ แหะๆๆ ส่วนข้อเสียอีกอย่างที่นึกออกก็เป็นเรื่องราคาค่ะ ไม่ถนอมเงินในกระเป๋าลูกค้าบ้างเลย T^T

เสียดายอยู่เหมือนกันที่ไม่มีโอกาสกลับไปร้านนี้ซ้ำ แต่หมายมั่นปั้นมือไว้ว่าถ้ามีโอกาส ทริปหน้าไม่พลาดแน่ค่ะ ตอนนี้คงได้แต่ฝากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆแถวนี้ไปชิมก่อนนะค้า :D

Yojiya Cafe Sanjo
Open 10:00-21:00
http://www.yojiyacafe.com/
http://www.yojiya.co.jp/english/cafe/


ピム宮 ~ pimmiya

Wednesday 8 October 2014

Yamachan (やまちゃん)

ส่งท้ายทริปโอซาก้าด้วยของดีเมืองโอซาก้าที่คนไทยหลายคนติดใจ นั่นคือ ทาโกะยากิ จะว่าไปต้องขออารัมภบทถึงทาโกะยากิก่อน ต้องบอกว่าที่ทำขายในไทยหรือที่คนไทยคุ้นกัน จริงๆเป็นทาโกะยากิสไตล์โตเกียวที่เน้นความกรอบพร้อมกับซอสและมายองเนส แต่ถ้าเป็นสไตล์โอซาก้าจริงๆ ต้องยุบๆยวบๆ บางทีก็กินกับซอส หรือบางทีก็ไม่ หรือบางครั้งก็เอาไปจุ่มน้ำซุป เรียกว่าอร่อยได้หลายแบบ

วันนี้จะพาไปกินร้านดังของโอซาก้า บอกเลยว่าถ้าถามคนโอซาก้าว่าทาโกะยากิร้านดังสุด อร่อยสุดในโอซาก้าคือร้านไหน หลายๆคนต้องตอบว่าร้าน Yamachan แน่นอน

ร้านสาขาแม่ หน้า Abeno Hoop กับหน้าร้านสาขาที่ 2

สาขาที่พีไปอยู่ห่างจากสาขาแม่นิดหน่อย ร้านนี้มีที่นั่งค่ะ สาขาแม่จะเป็นเหมือนเพิงขาย ซื้อแล้วยืนกิน แต่ถ้ามาที่ร้านสาขาที่2 จะมีที่นั่ง แต่ขอบอกว่าร้านค่อนข้างแคบ เราอาจจะต้องนั่งแชร์โต๊ะกับคนอื่น ถ้าไปกันหลายๆคนก็อาจจะต้องนั่งแยกกันนะคะ

   


เมนูมีหลายแบบอยู่ ที่ขึ้นชื่อของร้านนี้คือแบบBest (ベスト) หรือแบบไม่ราดอะไรเลย เป็นทาโกะยากิอย่างเดียว ซึ่งแน่นอน พีสั่งแบบนี้มาลอง ดูจืดๆแต่ไม่จืดเลยนะคะขอบอก อาจจะจืดไปสำหรับคนไทย แต่สำหรับพี พีว่ามันโอเคเลย รสชาติกลมกล่อม เคยได้ดูรายการทีวีที่เค้ามาถ่าย พนง.ร้านบอกว่าเค้าจะผสมพวกผลไม้ต่างๆลงไปในแป้งด้วย ทำให้ได้ความหวานอร่อยผสมไปในตัวแล้ว

ร้านนี้นอกจากสาขาที่Tennoji/Abenoแล้ว ยังมีสาขาใน Universal Studio Japan กับ Takoyaki Town ที่Odaiba ด้วย แนะนำถ้าใครเจอร้านนี้ ขอให้ได้ลองค่ะ สัมผัสรสชาติแท้จริงของโอซาก้า

Yamachan (やまちゃん)
Abeno, Osaka
Website: http://takoyaki-yamachan.net/


大きな地図で見る

Tuesday 9 September 2014

Sachifukuya (さち福や)

วันนี้มาแปลก ไม่ได้พาไปกินของดีแรร์ไอเทมของโอซาก้า แต่เป็นร้านเชนที่มีสาขาหลายแห่งในญี่ปุ่น (แต่สาขาไม่เยอะ) เป็นอาหารสไตล์กินที่บ้านแบบแม่(ญี่ปุ่น)ทำให้ อารมณ์โอโตะยะ ร้านนี้ชื่อ Sachifukuya พี่ได้ฝากท้องกับร้านนี้ถึง 3 มื้อ ทั้งเช้า กลางวัน เย็น (แต่คนละวัน) เพราะสะดวกเนื่องจากโรงแรมพีอยู่ในละแวกนั้น ไม่แพง อร่อย เวลาเปิดปิดทั้งเช้าและดึกกว่าร้านอื่นๆ เรียกว่าตอบโจทย์ในการเดินทางของพีมาก


สาขาทีพีไปกินคือสาขาที่อยู่ในห้าง Mio ซึ่งเป็นห้างที่ติดกับสถานีรถไฟ JR Tennoji (เห็นคำว่าMioลิบๆบนตึกในรูปด้านบน) ห้างมิโอะจะอยู่ตรงทางออก central exit ของ JR Tennoji ร้านนี้จะอยู่ตรงชั้นลอย (M2F) ตรงข้ามที่แปะบัตรเข้าไปในสถานีเลยค่ะ 


เพราะร้านนี้เปิด 8 โมงเช้า เค้าเลยเสิร์ฟเมนูอาหารเช้าระหว่าง 8.00 - 11.00 น. ราคา 500 เยน (ไม่รวมVAT) มี 3 อย่างให้เลือกคือ ชุดปลาย่าง ชุดนัตโตะ และชุดเมนไทโกะ หรือไข่ปลารสเผ็ด มื้อนี้คือมือแรกที่พีได้ลอง เพราะนัดเจอเพื่อนก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจตอนเช้า พีสั่งเซทเมนไทโกะไป ส่วนเพื่อนสั่งเป็นปลาย่าง ต่างกันแค่ตัวเมนคอร์สค่ะ ส่วนประกอบอื่นๆ เหมือนกัน เช่นไข่ดิบ ซุปมิโสะ สาหร่าย สลัดผัก ผักดอง จะบอกว่าอร่อยมันก็ไม่เชิง เพราะมันก็คือวัตถุดิบง่ายๆ พีว่ามัน satisfied มากกว่า คือมันทำให้เราอิ่มและพอใจได้ คือได้กินอาหารร้อนที่เป็นข้าว (อย่างว่าเนอะ คนเอเชียเราต้องกินข้าว)



ต่อมาเป็นมื้อกลางวัน จริงๆคือมื้อนี้คือมื้อวันกลับแต่ไม่เป็นไร เราไล่ตามมื้ออาหารดีกว่า พีสั่งเป็น set lunch ที่เค้าจะเปลี่ยนไปในแต่ละวัน เซทลันช์ราคา 1000เยน (ไม่รวมVAT) ตอนพีไปเป็นปลาอาจิทอด ปลาอาจิ หรือแมคคอเรลชนิดนึง เป็นปลาตัวเล็กพอดีคำ ทอดกรอบกินกับซอสทาทาร์ เค้าทอดแล้วไม่อมน้ำมันเลย อร่อยดีจัง

มาถึงมื้อเย็นมื้อสุดท้าย ร้านนี้last order คือสามทุ่มค่ะ ตอบโจทย์คนที่ไปทำกิจกรรมตอนหัวค่ำแล้วหาข้าวกินตอนค่ำๆมาก มื้อนี้พีและเพื่อนอีกสองคนสั่งแฮมเบิร์กเหมือนกันหมดเลย เพราะรูปในเมนูคือน่ากินมาก สำหรับอาหารชุดที่ไม่ใช่เซทลันช์ เราเลือกว่าจะรับข้าวขาว หรือข้าวแดงธัญญาพืชได้ จำได้ว่าเซทแฮมเบิร์กนี่ราคา 1600เยน (ไม่รวมVAT) รสชาติซอสค่อนข้างอ่อน (สำหรับพี คนกินเค็ม) แต่ก็กินกันสบายๆ จานใหญ่ ทำเอาอิ่มเลยทีเดียว

ถ้าใครอยากทานอาหารร้อน สไตล์แม่ทำให้กินแบบญี่ปุ่น ร้านนี้ถือเป็นทางเลือกอีกร้าน ที่ร้านไม่แพงเกินไป รสชาติดีอีกด้วยร้านนี้มีสาขาที่สนามบินคันไซด้วย ถ้าอยู่สนามบินแล้วหิวข้าว ไม่รู้จะกินอะไร ลองแวะชิมร้านนี้ดูก็ได้นะคะ

Sachifukuya (さち福や)
Mio Tennoji, Plaza M2F

Sunday 7 September 2014

Yoshino Sushi (吉野寿司)

สองอาทิตย์ก่อนพีได้ไปทิ้งท้ายหน้าร้อน(ญี่ปุ่น)ที่โอซาก้ามา คิดเมนูไปเยอะมาก แต่ไม่ได้กินตามแพลนเท่าไหร่เลย เพราะเจอเพื่อนเยอะมาก เลยกินตามสะดวกมากกว่า แต่ก็ได้ไปที่ๆอยากไปหลายๆที่ ที่แรกนี่น่าจะเป็นไฮไลท์สำหรับคนชอบซูชิ

คนไทยเวลาคิดถึงซูชิที่โอซาก้ามักจะคิดถึงซูชิที่ตลาดปลาของคุณลุง Endo Sushi เป็นแน่แท้ แต่ว่าร้านซูชิที่พีจะพาไปวันนี้เป็นซูชิสไตล์โอซาก้า คือเป็นซูชิแบบกดค่ะ อีกอย่างร้านนี้ในtabelog ได้เรตติ้ง 3.79 เลยทีเดียว เรตติ้งดีแบบนี้ต้องรีบไปเลย


ร้านนี้ชื่อYoshino Sushi (吉野寿司) หาไม่ยาก เป็นถนนเส้นที่ถ้าเดินจากDotonburi ขึ้นมาทางชินไซบาชิ ก็เส้นนั้นเลยค่ะ เดินตรงไปเรื่อยๆ (แต่ขอบอกว่าไกล นั่งรถไฟใต้ดินมาลงHonmachi หรือ Yodoyabashi ดีกว่า) ร้านนี้ ชั้นล่างจะขายเบนโตะแบบห่อกลับบ้าน จะกินที่ร้านต้องขึ้นลิฟท์ไปชั้น 2 ค่ะ 


พอสั่งเสร็จสรรพ ก็นั่งรอ เค้าก็จะเอาเหมือนจากcomplimentaryออกมาให้ก่อน ถ้วยนี้เป็นหนวดปลาหมึกยักษ์ลวก แล้วก็เป็นเยลลี่พอนสึราด ออกเปรี้ยวๆสดชื่น เหมาะกับหน้าร้อนมาก แต่บอกเลยว่ากินไปกินมา เหมือนกินปลาหมึกนึ่งมะนาว ฮ่า อร่อยดีค่ะ




รอไม่นาน เซ็ทของเราก็มาค่ะ ระดับพี ไปที่ไหนต้องจัดชุดใหญ่ตลอด สั่งชุด Yoshino Soroe Zen (吉野揃え膳  ¥3,400) ไป จะมีซูชิกด 4 คำ 8 หน้า ฟูโตมากิ 3 ชิ้น ซูชิหน้าซาบะ 2 ชิ้น เป็นข้าวม้วนมีไข่ด้านบน 2 ชิ้น และซุปมิโซะแดง


จะให้ดูว่าซูชิกดเค้าแบ่งครึ่งได้เป็น 2หน้าในหนึ่งคำ ดูเก๋ไม่เบา


ฟุโตมากิเป็นไส้ปลาไหล (คิดว่าน่าจะเป็นอนาโกะนะคะ) กับไข่หวานและเครื่อง


ข้าวม้วนมีไข่ด้านบนกับซูชิปลาซาบะ


สิ่งที่พีชอบที่สุดของร้านนี้คือซูชิซาบะดองค่ะ ปกติพีไม่ชอบกินซาบะดองเลย ไม่ว่าจะร้านไหนที่ไทยหรือญี่ปุ่น แต่ร้านนี้เป็นร้านแรกที่พีกินแล้วรู้สึกว่ามันอร่อยมาก เนื้อสัมผัสดี ไม่เปรี้ยวไม่เค็มเกินไป จะเห็นว่ามีแผ่นที่ปิดบนซาบะด้วย จริงๆมันคือสาหร่ายค่ะ เค้าปิดไว้เพื่อให้ซาบะคงความชุ่มชื้น ไม่แห้ง อร่อยมาก ถ้าใครไม่ชอบซาบะดอง ขอให้ลองที่ร้านนี้ค่ะ ดีจริง กล้ายืนยัน

Yoshino Sushi (吉野寿司)


View Larger Map

Tuesday 5 August 2014

Pyon Pyon Sha (ぴょんぴょん舎)

วันนี้จะพาไปร้านที่พีประทับใจสุดสำหรับทริปโทโฮขุ เป็นไฮไลท์ที่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นไฮไลท์ คือร้านยากินิขุที่โมริโอกะชื่อ Pyon Pyon Sha (ชื่อนี่มาสายแบ๊วมากๆ) จริงๆร้านยากินิขุที่โมริโอกะเนี่ย เค้าขึ้นชื่อเรื่องเรเมน หรือหมี่เย็นสไตล์เกาหลี เรียกได้ว่าเป็นของขึ้นชื่อของโมริโอกะคู่กับวันโกะโซบะ



เดินลอดทางใต้ดินโผล่มาถนนฝั่งซ้าย เดินมาก็จะเห็นป้ายร้านแบบด้านบนเลยค่ะ ร้านหาง่ายมาก เพราะอยู่บนถนนเส้นจากหน้าJR Moriokaไปริมแม่น้ำโมริโอกะซึ่งเป็นเส้นหลักที่จะเข้าไปตรงใจกลางเมืองหรือโรงแรม ต้องบอกก่อนว่ารูปอาหารจะเยอะ เพราะเป็นจากสองมื้อรวมกัน ที่ต้องกินย้ำสองมื้อ เพราะนอกจากอร่อยแล้ว ปรากฎว่าช่วงที่พีไป ร้านมีโปรโมชั่น เนื้อย่างจานละแค่ 500 เยนค่ะ (ยกเว้นกิวตังที่เป็น 700) คือถูกมาก ถ้าไม่ซ้ำ พีต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ (อิอิ)


ร้านนี้ถูกใจพีเพราะ มีเตาย่างสำหรับคนที่มากินคนเดียวด้วย แถมบรรยากาศยังดูไม่น่าสะพรึงสำหรับสาวๆถ้าจะไปกินเนื้อย่างคนเดียว ตกแต่งดูสะอาด เรียบง่าย


มาถึงก็สั่งเครื่องดื่มก่อน เป็นคิรินฟรี หรือเบียร์แบบไม่มีแอลกอฮอลล์ แต่ทำไมดื่มแล้วแอบรู้สึกเมาล่ะ นี่ละมั้งที่เค้าว่าคิดไปเอง มโนไปเอง ฮ่า


เซทเครื่องในโฮรุมน



กิวตัง หรือลิ้นย่าง

เอาของดีแนะนำก่อน คือพวกปิ้งย่าง พีสั่งเซทโฮรุมนกับกิวตัง โฮรุมนเนี่ย เอาจริงๆพียังไม่แน่ใจว่ามันเป็นส่วนไหนบ้างแต่คิดว่า เป็นหัวใจ กระเพาะ และก็ไส้ โอ๊ย ของโปรดทั้งนั้น ย่างแล้วหนุบหนับ อร่อยมาก จากนี้พีซ้ำทั้งสองมื้อ เพราะถูกใจมาก ส่วนกิวตังก็อร่อย จิ้มเลมอนกับเกลือ อร่อยสุดเลย


บิบิมบับหม้อหินก็ 500 เยนค่ะ ถูกจัง เติมโคชูจังได้ตามใจชอบ เราชาวไทยก็สาดเข้าไปค่ะ ไม่งั้นไม่แซ่บ ฮ่า


แล้วก็มาถึงเรเมน เรเมนของโมริโอกะเนี่ย เด่นตรงที่เค้าใส่แตงโมลงไปด้วย และก็เลือกความเผ็ดได้ พีเลือกระดับกลาง ซึ่งไม่เผ็ดเลย เลือกเผ็ดกว่านี้ได้เลยค่ะ เส้นหนึบๆมาก แต่ถ้าถามว่าอร่อยไหม ก็ไม่ได้ขนาดนั้นนะคะ แต่แตงโมหวานมากเลย พีว่ากินร้านที่โคเรียนทาวน์ตรงสุขุมวิท12ก็โอเคแล้ว ไม่ต้องไปถึงโมริโอกะเพื่อเมนูนี้ก็ได้ค่ะ

ต้องบอกเลยว่า แม้ไม่ลดราคา อาหารก็ราคาไม่แพงนะคะ ใครไปโมริโอกะเนี่ย แนะนำร้านนี้สุดๆ ชอบมาก รักร้านนี้ อยากแนะนำ อย่าลืมไปแวะนะคะ

Pyon Pyon Sha (ぴょんぴょん舎)
Morioka, Japan



Friday 18 July 2014

An afternoon in Aomori

เอนทรี่นี้จะมาแปลกซะหน่อย เพราะจะจัดเป็นคอมโบเซ็ทของกินในอาโอโมริรวดเดียวจบของพี ทริปนี้พีแวะเที่ยวเกือบจะครบทุกจังหวัดในเขตโทโฮขุ ยกเว้น2จังหวัดทางทะเลญี่ปุ่น ภายในเวลา7วัน เลยต้องมีชะโงกทัวร์บ้างในบางเมือง ในจังหวัดอาโอโมริ พีแวะเที่ยวเมืองฮิโรซากิ ที่มีปราสาทชื่อดังในตอนเช้าและแวะเดินเล่นในเมืองอาโอโมริก่อนจะต่อชิงคันเซนกลับโรงแรมที่โมริโอกะ ดังนั้นเวลามีน้อย เราเลยต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ โดยการกินค่ะ

  • Sushi Mikuni (すし処 三國) 
ร้านแรกก็ต้องเป็นของคาวก่อน เป็นร้านซูชิที่อยู่ตรงตลาดสดชั้นใต้ดินห้างAuga ซึ่งเดินไม่ไกลจากJR Aomoriเลย ขอบอกว่าพีมาถึงอาโอโมริประมาณบ่ายโมงกว่าๆ เงียบมากที่สุดในโลก เดินลงไปตลาดสดด้านล่าง เงียบงัน ในร้านก็ไม่มีคนเลย ถึงกับต้องถามคนขายว่า โอเคไหมคะ เปิดไหม เชฟสาวก็ตอบไฮ้ เลยนั่งหน้าเคาท์เตอร์ แล้วก็สั่งของเด่นของร้านซึ่งก็คือ ข้าวหน้าปลาดิบรวม (Kaisen don 海戦丼) นั่งเช็คนู่นนี่ไปสักพัก เชฟก็เอามาเสิร์ฟ


เครื่องแน่น ชามโต แล้วเชื่อไหม ชามนี้ราคาแค่ 2300 เยน!!!! ถ้ากินชามนี้ในโตเกียว ต้องมีระดับ 4000 เยนขึ้นไปแน่นอน (แล้วถ้ามาถึงบางกอกบ้านเรา มันจะราคาเท่าไหร่ อาจจะเท่ากับที่โตเกียวแต่หน่วยเป็นบาทแน่นอน) ความสดไม่ต้องพูดถึงคะ สดมาก อิคุระไม่ได้ดองเค็มผิวเหี่ยวจนเสียความสดไป เพราะผิวตึงแตกในปากอร่อยมาก


ไฮไลท์ของหลายๆคนก็คงเป็นอุนิแน่ๆ สดค่ะ ไม่มีกลิ่นรสที่ไม่พึงประสงค์ พีเอาบดๆไปกะข้าว ราดโชยุนิดนึง รสชาติแจ่มมาก


อันนี้คือความชอบส่วนตัว กุ้งสดมาก หวานมาก ดีงามมาก กินไปน้ำตาจะไหล ในส่วนของปลาที่เหลือพีว่าก็ตามมาตรฐานนะคะ โอโทโร่ไม่ถึงกับร้านคุณลุงที่โอคุซาว่า (เผื่อใครพลาดไป ร้านนี้เลยค่ะ โอโทโร่ระดับเทพ) ส่วนโฮตาเตะ หรือหอยเชลล์ กับปลาหมึกนี่คือสดและใหญ่มาก ร้านนี้เสิร์ฟซุปปลาค่ะ มีกลิ่นคาวอยู่เหมือนกัน ใครไม่ชอบคงกินไม่ไหวแน่ๆ แต่ขอบอกว่าราคาขนาดนี้ ได้ของสดขนาดนี้ อร่อยด้วย แนะนำสุดๆ

Sushi Mikuni (すし処 三國)
B1F Auga, Aomori, Japan




  • Gelato Natur (ナチュレ)
กินคาวแล้วก็ต้องกินหวานเนอะ ร้านนี้หาไม่ยาก พอขึ้นบันไดเลื่อนออกมานอกห้างAuga แล้วเลี้ยวขวาแรกเดินตรงไป จะเจอร้านเจลาโต้อยู่ตรงข้ามห้างเลยคะ ร้านนี้จะขายรสพื้นบ้าน คือเค้าก็มีรสแบบชอคโกแลต กาแฟนะ แต่เหมือนเค้าจะเน้นรสที่เป็นของดังอาโอโมริหรือใช้ของท้องถิ่นมากกว่า รสดังๆที่ทุกคนแนะนำกันก็คือรสแอปเปิ้ล (แน่นอนแหละ) รสถั่วเอดามาเมะ ฯลฯ สำหรับพี วันนี้สั่งรสคุรุมิ หรือถั่ววอลนัท ที่เป็นรสแนะนำ และก็นมแอปเปิ้ล (Milk Apple) ซึ่งขอบอกว่าสั่งผิด (อีกแล้ว) แต่เป็นคนมีโชคเพราะสั่งผิดทีไรได้ชิมรสอร่อยมากที่ปกติคงไม่ได้สั่ง



รสถั่ววอลนัทก็จะมันๆกรุบๆเพราะเค้าผสมลงไปด้วย เช่นเดียวกับรสนมแอปเปิ้ลที่เค้าผสมน้ำแอปเปิ้ลกับเนื้อแอปเปิ้ลลงไปด้วย อร่อยมากเลย ไม่หวานไป กินแล้วสดชื่น จนแอบอยากกินรสอื่นๆอีก แต่ว่าเต็มท้องไปหมดแล้วก็เลย เสียใจ ขอให้มีโอกาสกลับไปซ้ำด้วยเถอะ

Gelato Natur (ナチュレ)
Aomori, Japan
tabelog: http://tabelog.com/aomori/A0201/A020101/2000818/



ตบท้ายด้วยภาพรวมของฝากจากอาโอโมริซะหน่อย คือเหล่ามวลแอปเปิ้ล ของดีเมืองอาโอโมริคะ ขนมรสแอปเปิ้ลมีวางขายเยอะมาก ยิ่งตรงร้านของฝากข้างที่ขายตั๋วของสถานีJR Aomori เลือกจับจ่ายได้เต็มที่คะ แนะนำสุดต้องเป็นน้ำแอปเปิ้ลคั้นสดที่อยู่ในกล่องกระดาษ ซื้อที่ร้านตรงเยื้องๆJR Aomoriได้เลยคะ ร้านนี้มีแอปเปิ้ลสดขายด้วย กินได้หลากหลายทั้งกินสด กินผสมโซดา (อันนี้นาโอะบอกมา) พีซื้อโซจูมาเลยเอามาผสมกับน้ำแอปเปิ้ล ก็อร่อยไปอีกแบบ


ต้องบอกเลยว่า หลงรักอาโอโมริ เพราะอาหารอร่อยและราคาถูกเหลือเกิน ใครนั่งรถผ่านอาโอโมริ เวลาจะไปฮอคไกโดก็อย่าลืมแวะจังหวัดเงียบๆสงบๆจังหวัดนี้นะคะ ไม่ผิดหวังแน่ๆ