Pages

Thursday 19 April 2012

Shi Sheng Claypot Frog 狮城砂煲活田鸡

เพื่อไม่ให้บล็อกเงียบเหงาจนเกินไประหว่างที่พีไปปฏิบัติภารกิจที่นิวยอร์ค (คาดว่าคงมีอาหารตามายั่วพวกเราอีกตามเคย) ระหว่างนี้ก็มาเรียกน้ำย่อยกันต่อด้วยอาหารจากสิงคโปร์ไปพลางๆก่อนละกันนะคะ
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่วางแผนจะเดินทางไปสิงคโปร์ คงจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของโจ๊กกบ ณ เกลังซอย 9 กันมาบ้างไม่มากก็น้อย พิมมิยะเองก็หมายตาโจ๊กกบมานานแล้ว เพียงแต่ยังไม่สบโอกาสที่จะไปชิมกะเค้าซักที เนื่องจากไม่เคยหลอกล่อใครไปรับประทานเป็นเพื่อนได้สำเร็จ จนล่าสุดก็มีเหยื่อหลงมาติดกับ นั่นก็คือน้องสาวสุดที่รักนั่นเอง ฮี่ๆ

พิมมิยะไม่เคยรับประทานกบมาก่อนเลย ครั้นจินตนาการถึงกบก็มักจะพาลให้ระลึกถึงสมัยเรียนปี 1 ที่ต้องเอากบดองมาผ่าดูอวัยวะภายใน (อึ๋ย~) แถมหลังเลิกเรียนอาจารย์ก็ยังใจดีให้เอากบใส่ถุงพลาสติกกลับไปกิน เอ๊ย.. เอาไปดูต่อที่บ้านอีกตะหาก นึกแล้วก็ยังสงสัยอยู่ว่าตอนนั้นตัวเองกับเพื่อนทำไปได้ไง ฮ่า~

เกริ่นเท่านี้ละกัน เดี๋ยวคุณผู้อ่านจะเกิดอาการรับประทานไม่ลงซะเปล่าๆ เรามาดูร้านกันเลยดีกว่าค่ะ
ร้านนี้มีชื่อว่า Shi Sheng Claypot Frog เป็นร้านกบหม้อดินแฟรนไชส์ที่คนสิงคโปร์เค้าว่ากันว่าอร่อยที่สุด ซึ่งสาขาแรกอยู่ที่ Geylang Road ตรงหัวมุมถนน Lorong 9 Geylang ซึ่งบริเวณนี้เป็นฟู้ดคอร์ท (Hawker) ขนาดย่อมๆ มีหลายร้านอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่ร้านกบหม้อดินมีร้านเดียวนะคะ มองปราดเดียวก็รู้ว่าร้านไหน


หัวมุมฟากตรงข้ามเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวราดหน้าเนื้อค่ะ แต่พิมมิยะไม่ได้ชิม เนื่องจากที่บ้านไม่ทานเนื้อ


สำหรับเมนูก็มีตั้งแต่โจ๊กใส่ขากบ หรือจะสั่งเฉพาะขากบอบหม้อดิน แล้วค่อยสั่งโจ๊กเปล่าๆมารับประทานคู่กัน (มี 3 ไซส์ SGD 2, 3 ,4) ส่วนขากบอบหม้อดินก็มีให้เลือก 2 แบบ คือแบบธรรมดา ใส่แค่ขิงกับต้นหอม (Ginger spring onion frog leg) แล้วก็แบบเผ็ด (Dry chilli frog leg) ซึ่งใส่พริกเพิ่มมาให้ด้วย มี 3 ขนาดด้วยกันคือ 1, 2 และ 3 ตัว (SGD 8, 16, 24 ตามลำดับ)
พิมมะกับน้องตัดสินใจสั่งแบบธรรมดากับแบบเผ็ดมาชิมลางอย่างละตัวก่อน พร้อมโจ๊กขนาดกลาง


Ginger spring onion frog leg


Dry chilli frog leg



Porridge ทางร้านโรยขิงกับต้นหอมมาให้แล้ว

โจ๊กร้านนี้เนื้อเนียนดีค่ะ เข้าคู่กันกับขากบอวบๆได้อย่างลงตัว ถ้าถามว่าระหว่างแบบธรรมดากับแบบเผ็ดอย่างไหนอร่อยกว่ากัน คำถามนี้ตอบยากมากเลย พิมมิยะรักพี่เสียดายน้อง ชอบทั้ง 2 แบบค่ะ เพราะน้ำซอสที่มาในหม้อนั้นอร่อยทั้ง 2 แบบ รสชาติออกเค็มๆหวานๆ มีกลิ่นหอมของขิงเจืออยู่นิดๆ ถ้าเป็นแบบเผ็ดก็จะยิ่งแซ่บขึ้นไปอีกนิดนึง แต่ก็ถือว่าจิ๊บๆสำหรับคนไทยเรา แนะนำให้ลองทั้ง 2 แบบเลยละกัน สุดท้ายพิมมิยะกับน้องก็สั่งแบบเผ็ดเพิ่มมาอีก 2 ตัว เพราะแค่ 2 ตัวแรกยังไม่จุใจเราพี่น้องค่ะ


ส่วนเนื้อกบนี่เหนือความคาดหมายอย่างแรง ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่าเหมือนเนื้อไก่ แต่พิมมิยะว่า texture ออกแนวเด้งๆกว่านั้น ประมาณเนื้อไก่ผสมเนื้อปลาเก๋าอย่างงั้นเลย อร่อยมว้ากกกกกกกค่า ติดใจซะแล้ว >_<

คนอื่นที่ไปด้วยไม่กล้ารับประทานกบกัน ก็เลยสั่งข้าวต้มปลากับออส่วนจากร้านข้างๆมาแทน ข้าวต้มปลาใช้ได้ค่ะ ปลาสด ไม่คาว แถมใส่เต้าหู้มาให้ด้วย แปลกดี แต่ออส่วนเฉยๆค่ะ พิมมิยะไม่ชอบซอสพริกที่เค้าให้มา รสชาติสู้ซอสพริกบ้านเราไม่ได้



ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านที่พิมมิยะตั้งใจว่าต้องกลับไปอุดหนุนอีกแน่นอน สำหรับสาขาของร้านตอนนี้ก็มีที่ Chinatown กับ Bugis ด้วยค่ะ เราก็ไม่จำเป็นต้องถ่อร่างไปถึงเกลัง ส่วนในอนาคตคงจะมีสาขาเพิ่มกว่านี้ชัวร์ ก็ขายดีซะขนาดนั้น ใครที่อยากลองของแปลก (แต่อร่อย) ก็อย่าพลาดชิมนะคะ :D

Shi Sheng Claypot Frog
235 Geylang Road, Singapore





ピム宮 ~ pimmiya

1 comment:

  1. อร๊ายยย กบเป็นกบจริงๆ

    ReplyDelete