สืบเนื่องจาก blog เรามีวันครบรอบวันเกิดเดือนนี้พอดี พิมมิยะเลยมีไอเดียว่า เราควรมีเอนทรี่พิเศษฉลองครบรอบ 1 ปีของ blog เราดีมั้ย แล้วจะเขียนอะไรดีละ ก็ช่วยกันคิดค่ะ ว่าเขียนเอนทรี่อะไรดี ปกติก็เขียนแต่ร้านที่อร่อย ถูกปากมากๆ จนอยากแนะนำต่อเท่านั้น ร้านที่หาข้อมูลไปว่าอร่อย แต่พอไปทานแล้วมันไม่อร่อย ก็ไม่ได้นำมาถ่ายทอด เลยคิดว่า การบอกกล่าวเล่าต่อว่าร้านอาหารที่้เราไปกินแล้วไม่ถูกปากมีร้านอะไรบ้างก็น่าจะเป็นข้อมูลเสริมให้กับคุณผู้อ่านได้เหมือนกัน
คำเตือน
เอนทรี่นี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะคะ อร่อยของพวกเรา คุณผู้อ่านอาจจะว่าไม่อร่อย ไม่อร่อยของพวกเรา คุณผู้อ่านอาจจะอร่อยก็ได้ หรือบางที พวกเราอาจจะดวงซวยวันนั้นพอดี เดินเข้าร้านแบบก้าวขาเข้าไปผิดข้าง เลยทำให้ทานอาหารในวันนั้นๆ ไม่อร่อย ทั้งนี้ทั้งนั้น โปรดใช้วิจารณญาณของคุณผู้อ่านบวกกับข้อมูลจากแหล่งอื่นประกอบกันนะคะ และต้องขออนุญาตไม่พิมพ์ชื่อร้านลงใน blog เป็นตัวหนังสือ เพื่อป้องกันระบบ search engine อัจฉริยะที่แสนจะน่ากลัวเสริชเจอเอนทรี่นี้ แล้วเราจะโดนฟ้องนะคะ เหอๆ
นาโอะขอประเดิมเขียนคนแรกก่อนเลยนะคะ
ตอนนาโอะไปเที่ยวเมืองเนเปิ้ล ประเทศอิตาลี นาโอะก็หาข้อมูลไปค่ะว่าร้านพิซซ่าร้านไหนอร่อย เพราะไปเยือนถึงถิ่นต้นตำรับพิซซ่า ก็ต้องไปทานร้านพิซซ่าที่มันอร่อยให้คุ้มค่่า ถูกมั้ยคะ นาโอะเป็นคนชอบทานพิซซ่าค่ะ (ชอบนักอะ อาหารไม่มีประโยชน์) นาโอะเสริชเจอร้านนี้มาค่ะ โปรดดูชื่อร้านจากรูปแรก
ซองใส่ส้อมกับมีดและทิชชู่
ไปช่วงจังหวะเวลาที่ไม่ใช่มื้ออาหารค่ะ เลยไม่มีลูกค้าเลย (ซึ่งจริงๆ ถ้าเสริชดูจะเห็นว่าร้านนี้คนค่อนข้างเยอะค่ะ) นาโอะอ่านๆ มาว่า พิซซ่าที่อิตาลีเค้ากินกันคนละถาดเลย นาโอะก็จิ้นเอาเองว่ามันคงถาดเล็กๆ ไปกันสองคน สั่งมาคนละถาด สารภาพว่าจำไม่ได้ว่าสั่งหน้าไรมั่งค่ะ
พิซซ่าสองถาด
เอาเข้าจริง ถาดนึงใหญ่เหมือนกันค่ะ ตัดได้ประมาณ 6 ชิ้นใหญ่ กลิ่นก็หอม หน้าตาก็ดูดี พอกัดเข้าไปคำแรก โอ้ววววววว อะไรวะเนี่ย โฮ ไม่อร่อยเลย ชีสก็จืดๆ กลิ่นแรง แป้งก็แข็ง ซอสพิซซ่ารสชาติแย่มาก (จำได้แค่ว่ามันแย่ค่ะ แยกรสไม่ออกว่าแย่ยังไง) สรุป ผิดหวังสุดๆ กับพิซซ่าต้นตำรับแถมเป็นร้านดังอีกด้วย นาโอะเข็ดพิซซ่าที่อิตาลีอย่างแรงค่ะ สรุปวันนั้นทานกันไปถาดละ 2 ชิ้นถ้วน ที่เหลือต้องห่อกลับ ซึ่งก็ไม่ได้ห่อกลับไปทานนะคะ ห่อไปทิ้งงงง T_T เสียดายเงิน
แต่สุดท้ายนาโอะได้ไปล้างลิ้นที่ฟลอเรนซ์ อร่อยดีค่ะ แหะๆ นาโอะคงติดรสชาติพิซซ่าอิตาเลี่ยนที่ขายในไทยมากไป เค้าอาจจะปรุงแต่งรสชาติให้ถูกปากคนไทยจนพอไปกินต้นตำรับเลยว่าไม่อร่อยมั้งคะ หุหุหุ
สาขาที่พิมมิยะกับเพื่อนๆไปทานกันมาไม่ใช่สาขาแม่ แต่เป็นสาขาที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (ซึ่งที่จริงสาขาแม่ก็อยู่ใกล้ๆลูฟร์นี่เอง ใครอยากรู้ลองเสิร์ชดูนะคะว่าอยู่ตรงไหน) ชื่อร้านตั้งตามปีกตึกที่ร้านตั้งอยู่ค่ะ เป็นปีกตึกเดียวกับอพาร์ทเมนท์ของจักรพรรดินโปเลียน ทีแรกพวกเราตั้งใจจะไปชิมที่สาขาแม่ แต่ไม่รู้จะบริหารจัดการเวลากันยังไง เพราะร้านอาหารในโพยก็มีเยอะจนชิมกันไม่ทัน ฮ่า~ พวกเราเลยตัดสินใจว่าจะไปทานอาหารเย็นกันที่สาขานี้ในวันที่ไปลูฟร์นั่นแหละ ทานเสร็จจะได้เดินชมพิพิธภัณฑ์กันต่อ
ฮอตชอคโกแลต เครื่องดื่ม signature ของทางร้าน เสิร์ฟมาในเหยือกแบบข้นๆอย่างนี้เลยค่ะ ที่แปลกกว่าร้านอื่นคือ เค้าไม่ใส่นม แต่ให้วิปครีมมาใส่แทน
โปะวิปครีมลงไป แล้วคนๆๆๆให้เข้ากัน
ปรากฏว่าชอคโกแลตถ้วยนี้ไม่ร้อนสมชื่อเลยค่ะ เลยทำให้ความอร่อยหายไปหมด (พิมมิยะชอบชอคโกแลตแบบร้อนจัดๆอะค่ะ) ส่วนรสชาติก็ธรรมดามาก ออกหวานซะด้วยซ้ำ ไม่เข้มข้นเลย (อันนี้นาย J คอมเมนท์ไว้ว่าของลาดูเร กับปิแอร์ มาร์โคลินี่อร่อยกว่าแยะ) นี่เหรอฮอตชอคโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลก ฮ่วยค่ะ..ฮ่วย!! สรุปว่าผิดหวังอย่างแรงกับชอคโกแลตถ้วยนี้ ไม่สมราคา 7.90 ยูโรเอาซะเลย
ส่วนขนม signature ของร้านอย่างมงต์บลังก์ (8.40 ยูโร) อร่อยดีค่ะ ต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ค่อยได้ทานขนมประเภทนี้ซักเท่าไหร่ แต่ก็นับว่าอร่อยกว่าร้านในญี่ปุ่นที่เคยทาน (คนญี่ปุ่นฮิตขนมชนิดนี้มากทีเดียวค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม) พิมมิยะว่าเค้าทำออกมาได้หวานไม่มาก บวกกับความหอมๆมันๆของเกาลัดบดและครีมที่อยู่ด้านใน เลยทำให้พิมมิยะหายอารมณ์เสียจากฮอตชอคโกแลตไปได้ ฮ่า~
ขอพูดตรงๆเลยว่าเสียดายเงินมากๆกับร้านนี้ แพงก็แพง แต่คุณภาพไม่เป็นไปตามราคาเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไม่อร่อยเฉพาะวันที่ไปทานรึเปล่า (อะไรจะแจ๊คพอตขนาดน้านนน ^^") อาหารคาวที่สั่งมาทานก็ธรรมดามาก พิมมิยะสั่งสลัดฟัวกราส์ คนอื่นสั่งแซนด์วิชกับสเต็คค่ะ กาแฟก็เฉยๆ (อันนี้ความเห็นจากคุณถุง) ไม่แน่ว่าสาขาแม่อาจจะอร่อยจริงๆก็ได้ พวกเราผิดเองที่ไปทานผิดสาขา ฮ่า~ ใครเคยไปพิสูจน์มาแล้วก็ช่วยมาแชร์ความเห็นกันหน่อยนะคะ :D
No comments:
Post a Comment